แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ส.เช่าตึกพิพาทจากจำเลยที่ 2 โดยสามีมิได้เกี่ยวข้องด้วยเมื่อสิทธิการเช่าเป็นสิทธิเฉพาะตัว ส. ย่อมมีสิทธิจะโอนสิทธิการเช่าไปให้จำเลยที่ 1 ได้โดยมิต้องได้รับความยินยอมจากสามี ทั้งสัญญาเช่าที่ ส. ทำไว้กับจำเลยที่ 2 ได้หมดอายุสัญญาไปแล้ว โจทก์ผู้เป็นบุตรของสามี ส. จึงหามีสิทธิที่จะบอกล้างนิติกรรมสัญญาเช่าดังกล่าวไม่.
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่านางสายสม รัตนโภคาภริยานายประวัติ นันท์สุคนธ์ซึ่งเป็นบิดาโจทก์ ได้ร่วมกันเช่าตึกแถวจากจำเลยที่ 2 ต่อมาจำเลยทั้งสองกับนางสายสมได้สมคบกันโอนสิทธิการเช่าตึกแถวดังกล่าวให้จำเลยที่ 1 โดยทุจริตและนางสายสมไม่ได้รับความยินยอมจากนายประวัติ การโอนดังกล่าวตกเป็นโมฆียะกรรมนางสายสมกับนายประวัติถึงแก่กรรมไปแล้ว ขอให้ศาลพิพากษาเพิกถอนนิติกรรมการโอนสิทธิการเช่าให้เป็นชื่อนางสายสมตามเดิม และบังคับจำเลยที่ 2 ทำสัญญาเช่ากับทายาทนางสายสมต่อไป
จำเลยทั้งสองให้การว่าสิทธิการเช่าเป็นสิทธิเฉพาะตัวนางสายสมย่อมมีสิทธิโอนสิทธิการเช่าให้แก่บุคคลอื่น ซึ่งจำเลยที่ 2ผู้ให้เช่าได้ยินยอมให้มีการโอนได้จึงเกิดสัญญาเช่าขึ้นใหม่ระหว่างจำเลยที่ 1 กับจำเลยที่ 2 โจทก์ไม่มีสิทธิบอกล้างและไม่มีอำนาจฟ้องขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่ามีปัญหาว่าโจทก์ในฐานะผู้จัดการมรดกของนายประวัติ นันท์สุคนธ์และในฐานะทายาทผู้มีส่วนได้เสียในกองมรดกของนายประวัติผู้วายชนม์จะมีสิทธิบอกล้างนิติกรรมการโอนสิทธิการเช่าตึกพิพาทได้หรือไม่ ข้อเท็จจริงฟังได้ว่า ตามสัญญาเช่าเดิมเอกสารหมาย จ.5 ปรากฏว่านางสายสม รัตนโภคาเป็นผู้เช่าตึกพิพาทจากวัดบางขวางจำเลยที่ 2 นายสอน กาญจนสาลักษณ์ไวยาวัจกรวัดบางขวาง จำเลยที่ 2 เบิกความว่านางสายสมได้เช่าตึกพิพาทมาตั้งแต่ก่อสร้างใหม่ ๆ ก่อนหมดสัญญาเช่านางสายสมได้โอนสิทธิการเช่าตึกพิพาทให้นายสมศักดิ์ รัตนโภคาจำเลยที่ 1 จนหมดสัญญาเช่าแล้วเมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2525 จำเลยที่ 1 ได้ทำสัญญาเช่ากับวัดบางขวางจำเลยที่ 2 เห็นว่าสิทธิการเช่าเป็นสิทธิเฉพาะตัว เมื่อปรากฏว่านางสายสมเป็นผู้เช่าไม่เกี่ยวกับนายประวัติบิดาโจทก์นางสายสมย่อมมีสิทธิจะโอนสิทธิการเช่าไปให้นายสมศักดิ์ได้โดยมิต้องได้รับความยินยอมจากนายประวัติสามี ทั้งปรากฏว่าสัญญาเช่าที่นางสายสมทำให้ไว้กับจำเลยที่2 ได้หมดอายุสัญญาไปแล้วและขณะนี้นายสมศักดิ์จำเลยที่ 1 ได้ทำสัญญาเช่าโดยตรงกับวัดบางขวางจำเลยที่ 2 แล้วโจทก์จึงหามีสิทธิที่จะบอกล้างนิติกรรมสัญญาเช่าดังกล่าวไม่
พิพากษายืน.