คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2067/2518

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ผู้ร้องยื่นคำร้องขอว่า ผู้ร้องได้ให้ บ.ยืมโฉนดที่ดินไป ต่อมา บ. หลบหน้าไม่คืนโฉนดให้ ผู้ร้องจำเป็นต้องใช้โฉนดที่ดินในการแบ่งแยกกรรมสิทธิ์รวม จึงได้ยื่นฟ้อง บ.ศาลพิพากษาให้ บ. คืนโฉนดที่ดินและออกบังคับให้ บ. ส่งโฉนดคืน ผู้ร้องได้ยื่นคำขอให้ออกใบแทนโฉนดที่ดินแล้ว แต่เจ้าพนักงานที่ดินแจ้งว่า การบังคับทางศาลยังไม่ปรากฏเป็นประการใดให้ผู้ร้องดำเนินการทางศาลเสียก่อน ผู้ร้องจึงขอให้ไต่สวนและมีคำสั่งว่า โฉนดที่ดินของผู้ร้องเป็นอันตราย ชำรุด เสียหาย เพื่อให้เจ้าพนักงานที่ดินออกใบแทนโฉนดที่ดินให้ผู้ร้องตามประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 63 ดังนี้ กรณีมิใช่เป็นเรื่องที่ผู้ร้องจะใช้สิทธิทางศาลโดยดำเนินคดีอย่างคดีที่ไม่มีข้อพิพาทได้ เพราะในกรณีที่โฉนดที่ดินสูญหายนั้น มาตรา 63 แห่งประมวลกฎหมายที่ดินให้เจ้าของที่ดินไปขอรับใบแทนโฉนดจากเจ้าพนักงานที่ดิน มิใช้มาร้องขอต่อศาล และในพฤติการณ์บอกกล่าวจะถือว่าโฉนดสูญหายได้ก็ต่อเมื่อปรากฏแจ้งชัดในคดีที่ผู้ร้องฟ้อง บ.ว่า ไม่มีช่องทางที่จะบังคับคดีเอากับ บ. ด้วยประการใด ๆ แล้วเท่านั้น ต่อเมื่อปรากฏว่าโฉนดสูญหายจริง และเจ้าพนักงานที่ดินไม่ยินยอมออกใบแทนโฉนดที่ดินให้ผู้ร้องตามมาตรา 63 จึงจะถือว่าผู้ร้องถูกโต้แย้งสิทธิในทางแพ่งในอันที่จะดำเนินคดีกับเจ้าพนักงานที่ดินเป็นอีกคดีหนึ่งได้

ย่อยาว

ผู้ร้องยื่นคำร้องว่า นางบุญมากยืมโฉนดที่ดินของผู้ร้องไป ถึงกำหนดนางบุญมากนำโฉนดที่ดินมาคืน ผู้ร้องติดตามทวงถาม นางบุญมากผัดผ่อน ในที่สุดหลบหน้าไม่ยอมให้ผู้ร้องพบต่อมาผู้ร้องมีความจำเป็นต้องใช้โฉนดที่ดินในการแบ่งแยกกรรมสิทธิ์รวม ผู้ร้องจึงยื่นคำขอให้ออกใบแทน แต่เจ้าพนักงานที่ดินไม่อาจดำเนินการออกใบแทนให้ได้ ต่อมาผู้ร้องฟ้องนางบุญมาก ศาลแพ่งพิพากษาให้นางบุญมากคืนโฉนด ผู้ร้องได้ขอให้ออกใบแทนโฉนดที่ดินอีก เจ้าพนักงานที่ตอบขับข้อง ผู้ร้องจึงขอให้ศาลแพ่งออกคำบังคับ ศาลแพ่งได้ออกบังคับให้นางบุญมากส่งโฉนดคืนภายใน ๓๐ วัน ต่อมาผู้ร้องได้ยื่นคำขอให้ออกใบแทนโฉนดที่ดินอีก เจ้าพนักงานที่ดินแจ้วว่าการบังคับคดีทางศาลยังไม่ปรากฏเป็นประการใด ให้ผู้ร้องดำเนินการทางศาลเสียก่อน จึงขอให้ศาลมีคำสั่งนัดไต่สวน และมีคำสั่งว่าโฉนดที่ดินของผู้ร้องเป็นอันตราย ชำรุด สูญหายเพื่อให้เจ้าพนักงานที่ดินออกใบแทนโฉนดที่ดินให้ตามประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา ๖๓
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งยอกคำร้องเพราะไม่ใช่กรณีที่จะใช้สิทธิทางศาล
ผู้ร้องอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
ผู้ร้องฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า เรื่องนี้ที่ใช่เป็นกรณีที่ผู้ร้องจะใช้สิทธิทางศาลโดยดำเนินคดีอย่างคดีที่ไม่มีข้อพิพาท เพราะในกรณีที่โฉนดที่ดินสูญหายนั้น มาตรา ๖๓ ประมวลกฎหมายที่ดินให้เจ้าของที่ดินไปขอรับใบแทนโฉนดที่ดินจากเจ้าพนักงานที่ดินและมิใช่มาร้องของต่อศาล จริงอยู่เรื่องนี้ผู้ร้องร้องว่าได้ขออกใบแทนโฉนดที่ดินตามประมวลกฎหมายที่ดินแล้ว แต่เจ้าหน้าที่ที่ดินกรุงเทพ สาขามีนบุรีก็ไม่อาจออกใบแทนหรือจดทะเบียนแบ่งแยกให้ได้ แม้กระนั้นก็ดีก็ปรากฏตามสำเนาหนังสือของเจ้าพนักงานที่ดินดังกล่าวท้ายคำร้อง(เอกสารท้ายคำร้องหมายเลข ๔ และ ๕) ว่าเหตุที่เจ้าพนักงานที่ดินยังออกใบแทนให้ผู้ร้องไม่ได้เพราะยังถือไม่ได้ว่าโฉนดที่ดินสูญหายตามประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา ๖๓ โดยที่ดำเนินการบังคับคดีในคดีก่อนยังไม่เสร็จสิ้น เพราะถึงแม้ว่าศาลจะได้ออกคำบังคับให้แก่จำเลยในคดีก่อนแล้ว ก็ยังเป็นหน้าที่ของผู้ร้องซึ่งเป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาในคดีก่อนที่จะต้องขอให้ศาลออกหมายบังคับเพื่อบังคับต่อไปก่อน ในพฤติการณ์บอกกล่าวจะถือว่าโฉนดสูญหายได้ก็ต่อเมื่อปรากฏแจ้งชัดในคดีก่อนว่าไม่มีช่องทางที่ทางบังคับคดีเอากับลูกหนี้ตามคำพิพากษาด้วยประการใด ๆ แล้วเท่านั้น ต่อเมื่อปรากฏว่าโฉนดสูญหายจริง และเจ้าพนักงานที่ดินไม่ยินยอมออกใบแทนโฉนดที่ดินให้ผู้ร้องตามมาตรา ๖๓ ประมวลกฎหมายที่ดินจึงจะถือว่าผู้ร้องถูกโต้แย้งสิทธิในทางแพ่งในอันที่จะดำเนินคดีกับเจ้าพนักงานที่ดินเป็นอีกคดีหนึ่งได้ ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้ยกคำร้องขอของผู้ร้องนั้น ชอบแล้ว ฎีกาของผู้ร้องฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน
(ธานินทร์ กรัยวิเชียร สอน ไชยสุต ศิริ อติโพธิ)

Share