คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2066/2515

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยที่ 1 และที่ 2 เป็นลูกจ้างของโรงแรมโจทก์ร่วมทำหน้าที่เป็นช่างไฟฟ้าควบคุมเครื่องยนต์นำสตีมสำหรับทำน้ำร้อน และเครื่องซักผ้า และได้รับมอบหมายให้สั่งซื้อน้ำมันดีเซลมาใช้กับเครื่องยนต์ครั้งละ 6,000 ลิตร โดยบริษัทผู้ขายน้ำมันจะบรรทุกน้ำมันมาถ่ายลงถังที่โรงแรมโจทก์ร่วม และจำเลยที่ 1 หรือที่ 2 เป็นผู้เซ็นรับในใบสั่งน้ำมัน คราวเกิดเหตุจำเลยที่ 3 ซึ่งเป็นคนขับรถส่งน้ำมันของบริษัทผู้ขายได้บรรทุกน้ำมันมาส่งให้โรงแรมโจทก์ร่วมตามที่จำเลยที่ 2 สั่งซื้อ จำเลยที่ 1 เป็นผู้เซ็นรับน้ำมัน และโจทก์ร่วมก็ได้จ่ายค่าน้ำมันไปแล้ว จำเลยทั้งสามได้ร่วมกันเอาน้ำมันดังกล่าวไปขายเสียไม่ได้ถ่ายน้ำมันลงเก็บในถังไว้ใช้กับเครื่องยนต์ ดังนี้ เป็นความผิดฐานลักทรัพย์ ไม่ใช่ยักยอก

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยบังอาจร่วมกันลักน้ำมันเชลล์ดีโซลีนของบริษัทโรงแรมราชา จำกัด ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 334, 335

จำเลยทั้งสามให้การปฏิเสธ

บริษัทโรงแรมราชา จำกัด เข้าเป็นโจทก์ร่วม

ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาว่า จำเลยทั้งสามมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 335, 83

จำเลยทั้งสามอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

จำเลยทั้งสามฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งรับฎีกาเฉพาะปัญหาข้อกฎหมายซึ่งจำเลยฎีกาว่าตามข้อเท็จจริงที่โจทก์นำสืบเป็นความผิดฐานยักยอกทรัพย์ โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานลักทรัพย์ ทางพิจารณาแตกต่างกับฟ้อง จึงลงโทษจำเลยไม่ได้

ศาลฎีกาเห็นว่า จำเลยที่ 1 จำเลยที่ 2 เป็นลูกจ้างของโรงแรมโจทก์ร่วมทำหน้าที่เป็นช่างไฟฟ้าควบคุมเครื่องยนต์ทำสตีมสำหรับทำน้ำร้อนและเครื่องซักผ้า และได้รับมอบหมายจากโจทก์ร่วมให้สั่งซื้อน้ำมันดีเซลจากบริษัทเชลล์แห่งประเทศไทยมาใช้กับเครื่องยนต์ครั้งละ 6,000 บาท โดยบริษัทเชลล์ฯ จะบรรทุกน้ำมันใส่รถยนต์มาถ่ายลงถังเก็บน้ำมันที่โรงแรมโจทก์ร่วม และจำเลยที่ 1 หรือที่ 2 จะเป็นผู้เซ็นรับในใบสั่งน้ำมันนี้สำหรับน้ำมันรายที่โจทก์ฟ้อง จำเลยที่ 2 เป็นผู้สั่งซื้อไปยังบริษัทเชลล์ฯ จำเลยที่ 3 เป็นผู้ขับรถบรรทุกน้ำมันไปส่งให้โรงแรมโจทก์ร่วมตามที่จำเลยที่ 2 สั่งซื้อจำเลยที่ 1 เป็นผู้เซ็นรับน้ำมันนั้น และโรงแรมโจทก์ร่วมได้จ่ายเงินค่าน้ำมันจำนวนนี้เป็นเงิน 4,050 บาทให้บริษัทเชลล์ฯ ไปแล้ว แต่จำเลยทั้งสามได้ร่วมกันเอาน้ำมันจำนวนนี้ไปขายเสีย ไม่ได้เอาน้ำมันถ่ายเก็บลงในถังน้ำมัน ดังนี้ จำเลยที่ 1 ที่ 2 มิได้ครอบครองน้ำมันนั้นแต่อย่างใด การให้อำนาจจำเลยสั่งซื้อน้ำมันมิได้หมายความว่าให้จำเลยครอบครองน้ำมันนั้น จำเลยทั้งสามร่วมกันเอาน้ำมันไปขายเสียโดยมิชอบ การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดฐานลักทรัพย์ ไม่ผิดฐานยักยอก ข้อเท็จจริงไม่แตกต่างกับฟ้องฎีกาจำเลยฟังไม่ขึ้น

พิพากษายืน

Share