คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3520/2536

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การที่โจทก์ฟ้องหย่าจำเลยเป็นคดีแรกในปี 2529 แล้วโจทก์ย้ายออกจากบ้านของจำเลยที่เคยอยู่กินร่วมกันมาแต่แรกนานถึง8 ปีเศษ จึงเป็นการที่โจทก์ละทิ้งร้างจำเลยไปเอง เมื่อโจทก์เป็นฝ่ายละทิ้งร้างจำเลยไปเช่นนี้ โจทก์จะอาศัยเหตุที่จำเลยไม่ยอมปฏิบัติตามเงื่อนไขที่โจทก์จะให้จำเลยย้ายไปอยู่กับโจทก์ที่บ้านซึ่งทั้งสองฝ่ายไม่เคยอยู่ร่วมกันมาก่อนมาเป็นเหตุฟ้องหย่า โดยอ้างว่าจำเลยกระทำการเป็นปฏิปักษ์ต่อการเป็นสามีภรรยาไม่ได้ โจทก์ไม่มีสิทธิฟ้องหย่าจำเลย

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์จดทะเบียนสมรสและอยู่กินกับจำเลยตั้งแต่ปี 2520 มีสินสมรส คือ รถยนต์ยี่ห้อฮีโน่ ราคาประมาณ 200,000 บาทในปี 2529 โจทก์ฟ้องหย่าจำเลย ศาลพิพากษายกฟ้อง หลังจากนั้นโจทก์ไปขออยู่กินกับจำเลย จำเลยทำการเป็นปฏิปักษ์ต่อการที่เป็นสามีภรรยากัน ขอให้พิพากษาให้โจทก์และจำเลยหย่าขาดจากการเป็นสามีภรรยากันและให้จำเลยแบ่งสินสมรสแก่โจทก์กึ่งหนึ่ง
จำเลยให้การว่า โจทก์ไปเกี่ยวข้องกับหญิงอื่น จำเลยไม่ได้กระทำการอันเป็นปฏิปักษ์ต่อการเป็นสามีภรรยาและยังประสงค์ให้โจทก์กลับไปอยู่กินกับจำเลย รถยนต์ที่โจทก์อ้างว่าเป็นสินสมรสนั้นความจริงเป็นสินเดิมของจำเลย ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ว พิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ปัญหาว่าโจทก์มีสิทธิฟ้องหย่าหรือไม่เห็นว่า การที่โจทก์ฟ้องหย่าจำเลยเป็นคดีแรกในปี 2529 แล้วย้ายออกจากบ้านของจำเลยที่เคยอยู่กินร่วมกันมาแต่แรกเป็นเวลาถึง8 ปีเศษ เป็นการที่โจทก์ละทิ้งร้างจำเลยไปเอง หากโจทก์ประสงค์จะคืนดีกับจำเลยก็ชอบที่โจทก์จะกลับไปอยู่กับจำเลยที่บ้านเลขที่ 153ซึ่งเคยร่วมอยู่กินกันมาแต่เดิม แต่โจทก์กลับตั้งเงื่อนไขให้จำเลยย้ายไปอยู่กับโจทก์ที่บ้านเลขที่ 46 ซึ่งทั้งสองฝ่ายไม่เคยอยู่ร่วมกันมาก่อนย่อมเป็นการไม่ชอบ เมื่อโจทก์เป็นฝ่ายละทิ้งร้างจำเลยไป โจทก์จะอาศัยเหตุที่จำเลยไม่ยอมปฏิบัติตามเงื่อนไขของโจทก์มาเป็นเหตุฟ้องหย่าจำเลยโดยอ้างว่าจำเลยกระทำการเป็นปฏิปักษ์ต่อการเป็นสามีภรรยาหาได้ไม่ โจทก์ไม่มีสิทธิฟ้องหย่าจำเลย
พิพากษายืน

Share