แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา
ย่อสั้น
การที่จำเลยกับผู้เสียหายกอดปล้ำฟัดเหวี่ยงพลิกไปพลิกมาเพื่อแย่งมีดกันนั้น อาจเป็นเหตุให้มีดที่แย่งกันซึ่งเป็นมีดปลายแหลมแทงเข้าไปที่สะบักซ้ายด้านหลังของผู้เสียหายโดยจำเลยไม่มีเจตนาแทงได้ กรณีไม่อาจสันนิษฐานให้เป็นผลร้ายแก่จำเลยเหตุที่เกิดขึ้นผู้เสียหายเป็นฝ่ายที่ ท้าจำเลยให้ต่อยกันก่อน มีดที่แย่งกันก็เป็นมีดของผู้เสียหายที่ผู้เสียหายหยิบขึ้นมาเพื่อใช้แทงจำเลยก่อนฟังไม่ได้ว่าจำเลยใช้มีดแทงผู้เสียหาย คงฟังได้เพียงว่าจำเลยชกต่อยผู้เสียหาย ซึ่งเป็นความผิดตาม ป.อ. ม.391 เท่านั้น
ย่อยาว
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 288, 80 จำคุก 10 ปี ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ลดโทษจำเลยหนึ่งในสามตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 76 จำคุก 6 ปี8 เดือน จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า “ข้อเท็จจริงฟังได้ว่า จำเลยกับนายเจ๊ะหมาดผู้เสียหายเป็นลูกพี่ลูกน้องกัน บ้านอยู่ห่างกันประมาณ2 เส้น ก่อนเกิดเหตุคดีนี้ประมาณ 2-3 วัน ไซดักปลาของจำเลยหายไปจำเลยไปต่อว่าผู้เสียหายว่าเป็นคนลักไซไป ผู้เสียหายปฏิเสธว่าไม่ได้ลักเกิดโต้เถียงกัน วันเกิดเหตุเวลาประมาณ 11 นาฬิกา ผู้เสียหายกำลังนั่งตัดเชือกเพื่อผูกไซอยู่ที่ใต้ต้นมะขามในบริเวณสวนของผู้เสียหายจำเลยเดินผ่านมาเห็นผู้เสียหาย จึงเข้าไปต่อว่าผู้เสียหายเรื่องลักไซอีกผู้เสียหายปฏิเสธว่าไม่ได้ลัก เกิดโต้เถียงกัน ผู้เสียหายท้าจำเลยต่อยกัน” ฯลฯ
“ขณะเกิดเหตุคดีนี้ ไม่มีบุคคลอื่นรู้เห็น คงมีแต่จำเลยกับผู้เสียหายเท่านั้น ผู้เสียหายมีบาดแผลที่เกิดจากคมมีด 2 แห่ง คือที่คอด้านหลังกับที่สะบักซ้ายด้านหลัง เฉพาะแผลที่คอด้านหลังทั้งสองฝ่ายเบิกความตรงกันว่า เกิดจากการแย่งมีด ส่วนแผลที่สะบักซ้ายด้านหลังที่ผู้เสียหายว่าถูกจำเลยแทงนั้น ผู้เสียหายเบิกความว่า จำเลยบิดมือผู้เสียหายจนมีดหลุดจากมือผู้เสียหาย จำเลยจับมีดได้ ผู้เสียหายเข้าแย่งมีดคืนปล้ำฟัดเหวี่ยงพลิกไปพลิกมา ผู้เสียหายรู้สึกเสียวที่สะบักซ้าย เข้าใจว่าจำเลยเป็นคนแทงศาลฎีกาเห็นว่า การที่ทั้งสองคนกอดปล้ำฟัดเหวี่ยงพลิกไปพลิกมาเพื่อแย่งมีดกันนั้น อาจเป็นเหตุให้มีดที่แย่งกันซึ่งเป็นมีดปลายแหลมแทงเข้าไปที่สะบักซ้ายด้านหลังของผู้เสียหายโดยจำเลยไม่มีเจตนาแทงได้ กรณีไม่อาจสันนิษฐานให้เป็นผลร้ายแก่จำเลย ทั้งเมื่อพิเคราะห์ถึงเหตุที่เกิดขึ้นผู้เสียหายเป็นฝ่ายที่ท้าจำเลยให้ต่อยกันก่อนมีดที่แย่งกันก็เป็นมีดของผู้เสียหายที่ผู้เสียหายหยิบขึ้นมาเพื่อให้แทงจำเลยก่อน ข้อเท็จจริงฟังไม่ได้ว่า จำเลยใช้มีดแทงผู้เสียหาย คงฟังได้แต่เพียงว่า จำเลยชกต่อยผู้เสียหาย ซึ่งเป็นความผิดฐานลหุโทษตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 391 เท่านั้น
พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 391 จำเลยอายุ 18 ปี ลดมาตราส่วนโทษให้จำเลยลงหนึ่งในสามตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 76 แล้ว ให้ลงโทษจำคุกจำเลยไว้20 วัน จำเลยต้องขังมาพอแก่โทษแล้ว ให้ปล่อยตัวจำเลยไป”