คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 206/2528

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความผิดฐานใช้วัตถุระเบิดทำการจับปลาและความผิดฐานมีปลาที่ได้จากการใช้วัตถุระเบิดไว้ในความครอบครองเพื่อการค้ากฎหมายบัญญัติไว้คนละมาตรากัน และแยกการกระทำออกได้เป็นสองตอนต่างกรรมต่างวาระกัน แม้จะเป็นการกระทำต่อเนื่องกันหรือไม่ก็ตาม ต้องถือว่าเป็นการกระทำผิดสองกรรมจะต้องเรียงกระทงลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา91

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า เมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2525 จำเลยที่ 1 ได้ทำการควบคุมเรือยนต์ประมงและควบคุมเครื่องจักรเรือยนต์ดังกล่าวขณะแล่นไปในทะเล โดยไม่มีประกาศนียบัตรแสดงว่ามีความรู้สมควรที่จะกระทำการควบคุมได้ และจำเลยทั้งห้ากับพวกที่หลบหนีได้ร่วมกันใช้วัตถุระเบิดทำการประมงในที่จับสัตว์น้ำในทะเล โดยมิได้รับอนุญาตจากอธิบดีกรมประมง กับร่วมกันมีปลาสดชนิดต่าง ๆ ซึ่งเป็นสัตว์น้ำโดยรู้ว่าได้มาโดยการใช้วัตถุระเบิดทำการประมงในที่จับสัตว์น้ำจำนวน 300 กิโลกรัมไว้ในครอบครองของจำเลยเพื่อการค้า โดยมิได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานตามกฎหมายขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติการเดินเรือในน่านน้ำไทย ฯลฯ พระราชบัญญัติการประมง ฯลฯ
จำเลยที่ 1 ให้การรับสารภาพข้อหาตามพระราชบัญญัติการเดินเรือในน่านน้ำไทยฯข้อหาตามพระราชบัญญัติการประมงฯ จำเลยทั้งห้าให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยทั้งห้ามีความผิดตามฟ้อง ลงโทษจำเลยที่ 1ตามพระราชบัญญัติการเดินเรือในน่านน้ำไทยฯ และลงโทษจำเลยทั้งห้าตามพระราชบัญญัติการประมงฯ โดยเรียงกระทงลงโทษในความผิดฐานใช้วัตถุระเบิดทำการจับสัตว์น้ำ และความผิดฐานมีปลาที่ได้จากการใช้วัตถุระเบิดไว้ในความครอบครองเพื่อการค้า ฯลฯ
จำเลยทั้งห้าอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า ความผิดฐานใช้วัตถุระเบิดทำการจับปลาและฐานมีปลาที่ได้จากการใช้วัตถุระเบิดไว้ในความครอบครองเพื่อการค้า เป็นความผิดกรรมเดียวกันผิดกฎหมายหลายบท พิพากษาแก้เป็นว่าสำหรับความผิดตามพระราชบัญญัติการประมงฯ ให้ลงโทษฐานใช้วัตถุระเบิดทำการจับปลาซึ่งเป็นบทหนัก ฯลฯ
โจทก์ฎีกาว่า การกระทำของจำเลยทั้งห้าสำหรับความผิดตามพระราชบัญญัติการประมงฯ เป็นความผิดสองกรรมต้องเรียงกระทงลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 91
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ความผิดฐานใช้วัตถุระเบิดทำการจับปลา และความผิดฐานมีปลาที่ได้จากการใช้วัตถุระเบิดไว้ในความครอบครองเพื่อการค้า กฎหมายได้บัญญัติไว้คนละมาตรากัน การกระทำของจำเลยทั้งห้าดังกล่าวแยกการกระทำออกได้เป็นสองตอนต่างกรรมต่างวาระกันแม้จะเป็นการกระทำต่อเนื่องกันหรือไม่ก็ตาม จึงต้องถือว่าการกระทำผิดของจำเลยดังกล่าวเป็นการกระทำผิดสองกรรม ซึ่งจะต้องเรียงกระทงลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 แต่ปรากฏตามสำนวนว่าจำเลยที่ 5 มีอายุเพียง16 ปี ชอบที่จะลดมาตราส่วนโทษให้ตามกฎหมาย
พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ลดมาตราส่วนโทษให้จำเลยที่ 5 กึ่งหนึ่ง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 75 และให้เรียงกระทงลงโทษสำหรับจำเลยทั้งห้า สำหรับความผิดฐานใช้วัตถุระเบิดทำการจับสัตว์น้ำและความผิดฐานมีปลาที่ได้จากการใช้วัตถุระเบิดไว้ในความครอบครองเพื่อการค้า ฯลฯ นอกจากที่แก้นี้ให้บังคับคดีไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น

Share