แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ผู้เสียหายเป็นชู้กับภริยาจำเลยซึ่งมิได้จดทะเบียนสมรสกันในระหว่างที่ จำเลยต้องโทษจำคุกเมื่อจำเลยพ้นโทษแล้ววันใดที่จำเลยไม่อยู่บ้านผู้เสียหาย ก็มาหลับนอนกับภริยาจำเลยที่บ้านจำเลยเช้าวันเกิดเหตุในขณะที่จำเลย กำลังเดิน เข้าบ้านผู้เสียหายได้เตะต่อยจำเลยก่อนจำเลยซึ่งมีอายุมากกว่า ผู้เสียหายมากสู้ผู้เสียหายไม่ได้จึงวิ่งไป คว้ามีดมาฟันผู้เสียหายการกระทำ ของจำเลยจึงเป็นการป้องกันสิทธิของตนให้พ้นภยันตรายซึ่งเกิดจากการ ประทุษร้าย อันละเมิดต่อกฎหมายและเป็นภยันตรายที่ใกล้จะถึงแต่จำเลย ใช้มีดทั้งด้ามและใบมีดยาว 1 ฟุต ใบมีดกว้าง 4 นิ้ว ฟันผู้เสียหาย หลายทีจนผู้เสียหายได้รับอันตรายแก่ กายเป็นบาดแผลรวม 8 แห่ง แต่ไม่ถึงแก่ความตายบาดแผลที่สำคัญคือท้ายทอยยาว 15 เซนติเมตร ลึก 7 เซนติเมตรที่หน้าผากยาว 5 เซนติเมตรลึกถึงกะโหลกศีรษะ การกระทำของจำเลยจึงเป็นการกระทำโดยมีเจตนาฆ่าและเป็นการป้องกันเกินสมควรแก่เหตุ
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยใช้มีดฟันผู้เสียหายหลายครั้งโดยเจตนาฆ่า แต่ผู้เสียหายไม่ถึงแก่ความตาย ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 80, 288
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 80, 288
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า จำเลยถูกผู้เสียหายกดขี่ข่มเหงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรมและการกระทำของจำเลยเป็นการป้องกันโดยชอบด้วยกฎหมาย พิพากษากลับให้ยกฟ้อง
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า จำเลยใช้มีดทั้งด้ามและใบมีดยาวประมาณ 1 ฟุต เฉพาะใบมีดกว้าง 4 นิ้ว ฟันผู้เสียหายหลายทีที่ท้ายทอย หน้าผาก แขนทั้งสองข้างตะโพกและขา บาดแผลที่อวัยวะสำคัญคือที่ท้ายทอย ยาว 15 เซนติเมตร ลึก 7 เซนติเมตร ที่หน้าผากขวายาว 5 เซนติเมตร ลึกถึงกะโหลกศีรษะ ฟังได้ว่าจำเลยใช้มีดฟันผู้เสียหายโดยเจตนาฆ่า เช้าวันเกิดเหตุ หลังจากผู้เสียหายหลับนอนกับนางอุบลภริยาจำเลยซึ่งมิได้จดทะเบียนสมรสกันที่บ้านจำเลยตลอดคืนแล้วผู้เสียหายเดินออกจากบ้านจำเลย ในขณะที่จำเลยกำลังเดินเข้าบ้าน ผู้เสียหายได้เตะต่อยจำเลยก่อน โดยมิได้ใช้ไม้ตีจำเลยซึ่งมีอายุมากกว่าผู้เสียหายมากสู้ผู้เสียหายไม่ได้จึงวิ่งไปคว้ามีดมาฟันผู้เสียหาย การกระทำของจำเลยจึงเป็นการกระทำเพื่อป้องกันสิทธิของตนให้พ้นภยันตรายซึ่งเกิดจากการประทุษร้ายอันละเมิดต่อกฎหมายและเป็นภยันตรายที่ใกล้จะถึง แต่จำเลยใช้มีดทั้งด้ามและใบมีดยาว 1 ฟุต เฉพาะใบมีดกว้าง 4 นิ้ว ฟันผู้เสียหายหลายที จนผู้เสียหายได้รับอันตรายแก่กายเป็นบาดแผลรวม 8 แห่ง บาดแผลที่สำคัญคือท้ายทอยยาว 15 เซนติเมตร ลึก 7 เซนติเมตรที่หน้าผากยาว 5 เซนติเมตร ลึกถึงกะโหลกศีรษะ การกระทำของจำเลยจึงเป็นการป้องกันเกินสมควรแก่เหตุ
พิพากษากลับเป็นว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288, 80 ประกอบด้วยมาตรา 68, 69