คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2052/2533

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยฐานมีกัญชาไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย จำคุก 6 เดือน ฐานจำหน่ายกัญชา จำคุก 2 เดือน โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เฉพาะอัตราโทษ ให้ลงโทษจำเลยฐานมีกัญชาไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย จำคุก 1 ปี ฐานจำหน่ายกัญชาจำคุก 1 ปี ส่วนบทลงโทษคงเดิมเพียงแต่ระบุวรรคให้ชัดเจนขึ้นเท่านั้นเป็นการแก้ไขเล็กน้อย จำเลยฎีกาว่าจำเลยมีกัญชาไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ไม่ได้มีไว้เพื่อจำหน่าย กับขอให้รอการลงโทษ เป็นการฎีกาโต้เถียงในข้อเท็จจริง ย่อมต้องห้ามมิให้ฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218 วรรคแรกศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าจำเลยมีกัญชา จำนวน 1 ถุงใหญ่ กับ 22 ถุงเล็กรวมน้ำหนักทั้งสิ้น 664.48 กรัม ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต และจำหน่ายกัญชาจำนวน 2 ถุงเล็ก หนัก 7.31 กรัมให้แก่ผู้มีชื่อเป็นจำนวนเงิน 20 บาท ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 4, 6, 7, 8, 26, 75, 76, 102ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 ริบกัญชาของกลางและคืนเงิน20 บาท ที่ใช้ล่อซื้อแก่เจ้าพนักงานด้วย จำเลยให้การรับสารภาพศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษพ.ศ. 2522 มาตรา 4, 6, 7, 8, 26, 75, 76, 102 ที่แก้ไขแล้วลงโทษฐานมียาเสพติดให้โทษประเภท 5 ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายจำคุก 1 ปี ฐานจำหน่าย จำคุก 4 เดือน รวมจำคุก 1 ปี 4 เดือนจำเลยให้การรับสารภาพ เป็นประโยชน์แก่การพิจารณามีเหตุบรรเทาโทษลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุก 8 เดือนริบกัญชาของกลาง คืนเงินของกลางแก่เจ้าของ โจทก์อุทธรณ์ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 26, 75 วรรคแรก, 76 วรรคสองที่แก้ไขแล้ว ฐานมีกัญชาไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่าย จำคุก 2 ปีฐานจำหน่ายกัญชา จำคุก 2 ปี รวมจำคุก 4 ปี จำเลยรับสารภาพมีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78คงจำคุก 2 ปี นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “คดีมีปัญหาว่าจำเลยมีกัญชาของกลางไว้ในความครอบครองจำนวน 664.48 กรัม โดยไม่ได้รับอนุญาตไม่ได้เป็นการมีกัญชาไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายนั้น เห็นว่าจำเลยให้การรับสารภาพตามข้อเท็จจริงในฟ้องว่า จำเลยมียาเสพติดให้โทษกัญชาไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่าย จำนวน664.48 กรัม ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 4, 6, 7, 8, 26, 75, 76, 102ที่แก้ไขแล้วลงโทษฐานมีกัญชาไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายจำคุก 1 ปี ฐานจำหน่ายกัญชา จำคุก 4 เดือน ลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุก 8 เดือน ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เฉพาะอัตราโทษ ส่วนบทลงโทษคงเดิมเพียงระบุวรรคให้ชัดเจนขึ้นเท่านั้น และจำคุกจำเลยมีกำหนด 2 ปี เป็นการแก้ไขเล็กน้อยจำเลยฎีกาว่า จำเลยมีกัญชาไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตเท่านั้น ไม่ได้มีไว้เพื่อจำหน่าย กับขอให้รอการลงโทษจำเลยจึงเป็นการฎีกาโต้เถียงในข้อเท็จจริง ซึ่งต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218 วรรคแรก ที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งรับฎีกาจำเลยมานั้นไม่ชอบ ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย”
พิพากษายกฎีกาจำเลย

Share