คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2050/2527

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

จำเลยขอประกันตัวเองเมื่อผิดสัญญาประกัน และศาลสั่งปรับจำเลยแล้วน้องจำเลยไม่มีอำนาจอุทธรณ์ฎีกาแทน

ย่อยาว

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบการค้าประเวณีฯ จำคุก 1 เดือน แต่ให้เปลี่ยนโทษจำคุกเป็นกักขัง 1 เดือนจำเลยอุทธรณ์และขอประกันตัวเองระหว่างอุทธรณ์ ศาลชั้นต้นอนุญาตให้ประกัน ตีราคา 150,000 บาท ต่อมาศาลชั้นต้นนัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ นายพยุง อำรุง ผู้ร้องอ้างว่าเป็นน้องชายจำเลยยื่นคำร้องว่าจำเลยไม่สามารถมาฟังคำพิพากษาตามนัดได้ เพราะถูกคนร้ายลักพาตัวไปศาลชั้นต้นไต่สวนแล้ว มีคำสั่งว่าคดีไม่อาจรับฟังได้ว่าจำเลยถูกคนร้ายลักพาตัวไป ออกหมายจับจำเลย และปรับจำเลยตามสัญญาประกันศาลอุทธรณ์พิพากษายืน ผู้ร้องฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า “ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 119 บัญญัติว่า ในกรณีผิดสัญญาประกันต่อศาล ศาลมีอำนาจสั่งบังคับตามสัญญาประกันหรือตามที่ศาลเห็นสมควรโดยมิต้องฟ้องแต่เมื่อศาลสั่งประการใดแล้ว ฝ่ายผู้ถูกบังคับตามสัญญาประกันหรือพนักงานอัยการมีอำนาจอุทธรณ์ฎีกาได้ กรณีนี้ปรากฏว่าผู้ร้องเป็นเพียงน้องของนายประกันจึงไม่มีอำนาจอุทธรณ์ฎีกาแทนนายประกันได้

ที่ผู้ร้องฎีกาว่า จำเลยหรือนายประกันถึงแก่ความตายนั้นไม่ปรากฏว่าผู้ร้องได้เคยกล่าวอ้างเช่นนั้นมาก่อนในศาลชั้นต้น และข้อเท็จจริงในสำนวนก็หาปรากฎเช่นนั้นไม่ ฎีกาของผู้ร้องฟังไม่ขึ้น”

ให้ยกฎีกาของผู้ร้อง

Share