แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ
ย่อสั้น
บทบัญญัติ ป.อ. มาตรา 170 มีความมุ่งหมายจะเอาโทษแก่ผู้ที่ได้ขัดขืนหมายหรือคำสั่งของศาลให้มาให้ถ้อยคำ ให้มาเบิกความหรือให้ส่งทรัพย์หรือเอกสารใดในการพิจารณาคดีอันเป็นบทบัญญัติถึงการกระทำความผิดต่อศาลซึ่งเป็นเจ้าพนักงานในการยุติธรรมโดยเฉพาะแม้โจทก์จะอ้างว่าได้รับความเสียหายจากการที่จำเลยขัดขืนคำสั่งศาลไม่ส่งเงินที่อายัดไว้ไปยังศาลแพ่ง แต่ก็ไม่ใช่ความเสียหายโดยตรงอันเกิดจากการกระทำผิดของจำเลย เพราะโจทก์จำเลยมิได้มีสิทธิและหน้าที่ต่อกัน การกระทำของจำเลยไม่เป็นการล่วงสิทธิของโจทก์โจทก์จึงมิใช่ผู้เสียหายตาม ป.วิ.อ. มาตรา 2(4) จึงไม่มีอำนาจฟ้อง.
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 170, 83, 91
ศาลชั้นต้นตรวจคำฟ้องแล้ววินิจฉัยว่าโจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “โจทก์ฟ้องกล่าวหาว่า จำเลยที่ 1 ได้รับหมายอายัดของศาลแพ่งในคดีแพ่งหมายเลขดำที่ 10243/2530 ให้อายัดเงินบำเหน็จและเงินพ้นหน้าที่ของนางเชาวนาวลัย ภูรีปติภาณ จำเลยที่ 2 ในคดีดังกล่าว เพื่อให้ส่งเงินไปที่ศาลแพ่ง แต่จำเลยที่ 1กลับร่วมกับจำเลยที่ 2 ถึงที่ 6 ขัดขืนคำสั่งศาลไม่ส่งเงินที่อายัดไว้ไปยังศาลแพ่งเพื่อกลั่นแกล้งโจทก์ และขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 170 เห็นว่า มาตรานี้บัญญัติไว้ในภาค 2 ความผิดลักษณะ 3ความผิดเกี่ยวกับการยุติธรรม หมวด 1 ความผิดต่อเจ้าพนักงานในการยุติธรรม อันมีความมุ่งหมายจะเอาโทษแก่ผู้ที่ได้ขัดขืนหมายหรือคำสั่งของศาลให้มาให้ถ้อยคำ ให้มาเบิกความหรือให้ส่งทรัพย์หรือเอกสารใดในการพิจารณาคดี อันเป็นบทบัญญัติถึงการกระทำความผิดต่อศาลซึ่งเป็นเจ้าพนักงานในการยุติธรรมโดยเฉพาะ แม้ในคดีนี้โจทก์จะอ้างว่าได้รับความเสียหาย แต่ก็ไม่ใช่ความเสียหายโดยตรงอันเกิดจากการกระทำผิดของจำเลยเพราะโจทก์จำเลยมิได้มีสิทธิและหน้าที่ต่อกันการกระทำของจำเลยไม่เป็นการล่วงสิทธิของโจทก์ โจทก์มิใช่ผู้เสียหายตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 2(4) จึงไม่มีอำนาจฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามมาตรานี้…”
พิพากษายืน.