คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2043/2539

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

แม้จำเลยเคยต้องโทษจำคุกตามคำพิพากษาของศาลในคดีก่อนมาแล้วเมื่อข้อเท็จจริงในคดีนี้ฟังได้ว่าผู้เสียหายก็มีส่วนประมาทในการขับรถจักรยานยนต์โดยไม่เปิดไฟหน้ารถทั้งจำเลยได้พยายามบรรเทาผลร้ายโดยชดใช้ค่าเสียหายให้แก่ผู้เสียหายแล้วศาลย่อมลงโทษจำคุกและปรับจำเลยในคดีนี้แล้วยกโทษจำคุกตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา55ได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติจราจรทางบกพ.ศ. 2522 มาตรา 43, 78, 157, 160 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91,300, 390
จำเลย ให้การรับสารภาพ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 มาตรา 43, 78, 157, 160 (ที่ถูกมาตรา160 วรรคสอง) ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91, 300, 390ให้เรียงกระทงลงโทษ ฐานขับรถประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายสาหัสจำคุก 4 เดือน ฐานหลบหนีไม่หยุดให้ความช่วยเหลือจำคุก 2 เดือน รวมจำคุก 6 เดือน จำเลยให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา ลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 78 คงจำคุก 3 เดือน
จำเลยอุทธรณ์ขอให้รอการลงโทษจำคุก หรือลงโทษปรับ
ศาลอุทธรณ์ ภาค 2 พิพากษายืน
จำเลยฎีกาขอให้ลงโทษปรับหรือโทษที่เบากว่าโดยอัยการสูงสุดรับรองให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงฟังได้ว่า ผู้เสียหายก็มีส่วนประมาทโดยขับขี่รถจักรยานยนต์โดยไม่เปิดไฟหน้ารถเพราะไฟเสีย ทั้งจำเลยก็ได้พยายามบรรเทาผลร้ายโดยชดใช้ค่าเสียหายแก่ผู้เสียหายเป็นเงิน 27,500 บาท รวมทั้งชดใช้ค่าซ่อมแซมรถจักรยานยนต์ให้ผู้เสียหายเป็นเงินอีก 2,000 บาท รวมเป็นเงิน29,500 บาท จึงสมควรปรานีโดยให้ลงโทษปรับอีกสถานหนึ่ง แล้วยกโทษจำคุกเสียตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 55
พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ลงโทษปรับอีกสถานหนึ่งในความผิดฐานกระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นรับอันตรายสาหัสตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 300 ปรับเป็นเงิน 5,000 บาท และความผิดฐานหลบหนีไม่หยุดให้ความช่วยเหลือ ปรับ 5,000 บาท รวมปรับ10,000 บาท จำเลยให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงปรับ 5,000 บาทโทษจำคุกให้ยกเสียตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 55 หากจำเลยไม่ชำระค่าปรับ ให้จัดการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 29, 30นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 2

Share