แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
มารดาแลตาเป็นเจ้าของที่ดินและเรือนร่วมกัน เมื่อมารดาตายแล้ว บุตรผู้ตายซึ่งเป็นผู้รับมฤดก ได้อยู่ร่วมเรือนนี้มากับตา ย่อถือได้ว่าบุตรผู้ตายได้ครอบครองทรัพย์มฤดก ตาจะอ้างอายุความมฤดกมายันบุตรผู้ตายไม่ได้
ย่อยาว
โจทก็ฟ้องเรียกมฤดกของนายอนงค์บิดา ด.ช.อำนวย ด.ช.เอนก จากจำเลย
คดีได้ความว่า ที่ดินและเรือนพิพาทเป็นของนางตุ้มมานดานายอนงค์ และของจำเลยร่วมกัน เมื่อนางตุ้มตายแล้ว นายอนงค์ได้อยู่ร่วมเรือนกับจำเลยซึ่งเป็นตา ตลอดมาจนนายอนงค์ตาย
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง โดยเห็นว่าจำเลยได้ปกครองมาฝ่ายเดียวถึง ๑๕ ปี หลังจากนางตุ้มตายแล้ว
ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้แบ่งที่ดินคนละครึ่ง ส่วนเรือนเป็นของนายอนงค์ตกได้แต่ ด.ช.เอนก ด.ช.อำนวย
โจทก์จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเห็ว่า ข้อที่จำเลยฎีกาว่าตั้งแต่นางตุ้มตายแล้ว จำเลยครอบครองที่ดินบ้านเรือนรายพิพาทฝ่ายเดียว นางอนงค์เป็นแต่เพียงบริวารของจำเลยนั้น ปรากฏว่านายอนงค์เป็นผู้รับมรดกของนางตุ้ม และได้อยู่ร่วมเรือนกับจำเลยต้องถือว่านายอนงค์ได้ครอบครองทรัพย์มฤดก จำเลยจะอ้างอายุความมฤดกยันนายอนงค์ไม่ได้ จึงพิพากษาแก้ให้ประมูลราคา หรือขายทอดตลาดที่ดินและเรือนพิพาท แบ่งกันคนละครึ่ง