คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 203/2488

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

สามีบวช 19 พรรษา ถือว่ามีเจตนาสละภรรยาและบุตร จึงขาดสิทธิในทรัพย์สิน ภรรยาจึงมีสิทธิแบ่งทรัพย์ให้บุตรตามลำพัง.

ย่อยาว

โจทก์ตั้งใจบวช ๓ เดือน แต่ได้บวช ๑๙ พรรษาภรรยาจึงแบ่งทรัพย์ให้บุตรจำเลยเป็นผู้รับมรดกของบุตรที่ได้รับส่วนแบ่งนั้น โจทก์มาฟ้องขอให้คืนทรัพย์
จำเลยเถียงว่า โจทก์สละภรรยาและทรัพย์สินไปอุปสมบท ภรรยาโจทก์จึงมีอำนาจแบ่งทรัพย์ได้
ศาลล่างทั้ง ๒ เห็นว่าการไปบวชของโจทก์มีเจตนาครองสมณเพศ จึงเป็นการสละภรรยา และทรัพย์สินย่อมขาดสิทธิครอบครองตามกฎหมายผัวเมียเก่าบทที่ ๓๗ เพราะโจทก์อุปสมบทแต่ พ.ศ. ๒๔๖๘ จึงต้องนำกฎหมายเรื่องนี้มาบังคับ ดังนี้ภรรยาโจทก์ได้ครอบครองทรัพย์โดยลำพังจำเลยก็ปกครองที่พิพาทสืบมา โจทก์ไม่มีสิทธิร้องเรียกคืนให้ยกฟ้องโจทก์
โจทก์ฎีกา ศาลฎีกาเห็นว่าพ้องกับศาลชั้นต้นว่า โจทก์ได้บวชโดยเจตนาสละภรรยาและทรัพย์สิน หาใช่บวชชั่วคราวไม่ ภรรยาได้ปกครองทรัพย์มาฝ่ายเดียว โจทก์จึงขาดสิทธิในที่พิพาท จึงพิพากษายืน

Share