แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ศาลชั้นต้นกำหนดประเด็นข้อพิพาทว่าจำเลยปลูกสร้างโกดังรุกล้ำที่ดินโจทก์เพียงใด เพราะจำเลยยอมรับว่าได้ปลูกสร้างโกดังรุกล้ำที่ดินโจทก์จริง และจำเลยต่อสู้ในประเด็นว่าเนื้อที่ดินที่รุกล้ำน้อยกว่าที่โจทก์ฟ้องเพื่อผลเกี่ยวกับการกำหนดค่าเสียหายที่โจทก์เรียกร้อง ดังนั้น ที่ศาลชั้นต้นฟังข้อเท็จจริงว่าจำเลยก่อสร้างรุกล้ำโดยสุจริตจึงเป็นการวินิจฉัยนอกประเด็น
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่ดินโฉนดเลขที่1845 ตำบลดีลัง อำเภอพัฒนานิคม จังหวัดลพบุรี จำเลยเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่ดิน โฉนดเลขที่ 897 ตำบลดีลัง อำเภอพัฒนานิคมจังหวัดลพบุรี ซึ่งอยู่ติดกับที่ดินทางด้านทิศตะวันตกของโจทก์เมื่อประมาณกลางปี 2529 จำเลยได้ก่อสร้างโกดังเก็บพืชไร่รุกล้ำเข้าไปในที่ดินของโจทก์ตลอดแนวด้านทิศตะวันตกของที่ดินโจทก์ตั้งแต่ทางหลวงจังหวัดสายนิคมลพบุรี – วังม่วง ถึงคลองส่งน้ำห้วยส้มโดยไม่สุจริต โจทก์ได้บอกกล่าวให้จำเลยรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างที่รุกล้ำออกไปจากที่ดินโจทก์ จำเลยไม่ดำเนินการ ขอให้บังคับจำเลยรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างส่วนที่รุกล้ำออกไป และส่งมอบที่ดินคืนโจทก์ในสภาพเรียบร้อย หากจำเลยไม่ดำเนินการดังกล่าวให้โจทก์เป็นผู้ดำเนินการ โดยให้จำเลยเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายกับให้จำเลยและบริวารออกไปจากที่ดินดังกล่าว และให้จำเลยชดใช้ค่าเสียหาย
จำเลยให้การว่า จำเลยรุกล้ำเนื้อที่ดินโจทก์เพียง 4.6 ตารางวาค่าเสียหายที่จำเลยรุกล้ำที่ดินจึงคิดเป็นเงินค่าเช่าเพียง 84สตางค์ต่อเดือน ที่ดินโจทก์เป็นสภาพที่ว่างเปล่าเหมาะแก่การทำนามากกว่าประกอบธุรกิจอื่น จำเลยไม่ได้ทราบและได้รับหนังสือบอกกล่าวจากโจทก์ ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้จำเลยรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างในส่วนที่รุกล้ำออกไปจากที่ดินของโจทก์ และส่งมอบที่ดินแก่โจทก์ในสภาพเรียบร้อย ห้ามจำเลยและบริวารเข้าเกี่ยวข้องในที่พิพาท ให้จำเลยใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่า จำเลยได้ก่อสร้างโกดังรุกล้ำที่ดินของโจทก์ทางด้านทิศตะวันตกจริง การที่ศาลชั้นต้นฟังข้อเท็จจริงและพิพากษาว่าจำเลยปลูกสร้างโกดังในที่ดินของโจทก์โดยสุจริตเป็นการพิพากษาเกินคำขอโจทก์หรือไม่ ศาลฎีกาเห็นว่าศาลชั้นต้นกำหนดประเด็นข้อพิพาทข้อที่ 2 ว่าจำเลยปลูกสร้างโกดังรุกล้ำที่ดินโจทก์เพียงใด เพราะจำเลยยอมรับว่าได้ปลูกสร้างโกดังรุกล้ำที่ดินของโจทก์จริง และจำเลยต่อสู้ในประเด็นว่า เนื้อที่ดินที่รุกล้ำน้อยกว่าที่โจทก์ฟ้อง เหตุที่จำเลยต่อสู้ดังกล่าวก็เพื่อผลเกี่ยวกับการกำหนดค่าเสียหายที่โจทก์เรียกร้อง ดังนั้นที่ศาลชั้นต้นฟังข้อเท็จจริงว่าจำเลยก่อสร้างรุกล้ำโดยสุจริตจึงเป็นการวินิจฉัยนอกประเด็น
พิพากษายืน