คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2029/2537

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

จำเลยยอมรับว่าได้ปลูกสร้างโกดังรุกล้ำที่ดินโจทก์จริง แต่การปลูกสร้างรุกล้ำมีเนื้อที่ดินที่รุกล้ำน้อยกว่าที่โจทก์ฟ้อง การยกข้อต่อสู้ดังกล่าวก็เพื่อโต้แย้งเกี่ยวกับค่าเสียหายที่โจทก์เรียกร้อง ศาลชั้นต้นจึงกำหนดประเด็นข้อพิพาทว่าจำเลยปลูกสร้างโกดังที่รุกล้ำที่ดินโจทก์เพียงใด ดังนั้นที่ศาลชั้นต้นฟังข้อเท็จจริงว่าจำเลยก่อสร้างรุกล้ำโดยสุจริต จึงเป็นการวินิจฉัยนอกประเด็น

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยได้ก่อสร้างโกดังเก็บพืชไร่รุกล้ำเข้าไปในที่ดินของโจทก์ตลอดแนวด้านทิศตะวันตกของที่ดินโจทก์โดยไม่สุจริตคิดเป็นเนื้อที่รวม 24 ตารางวา โจทก์คิดค่าเสียหายที่ไม่สามารถนำที่ดินไปหาประโยชน์ได้ ซึ่งเป็นค่าเสียหายเดือนละ 3,000 บาทขอให้บังคับจำเลยรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างส่วนที่รุกล้ำเข้าไปในที่ดินโฉนดเลขที่ 1845 ตำบลดีลัง อำเภอพัฒนานิคม จังหวัดลพบุรีออกไป และส่งมอบที่ดินคืนโจทก์ในสภาพเรียบร้อย หากจำเลยไม่ดำเนินการดังกล่าว ให้โจทก์เป็นผู้ดำเนินการ โดยให้จำเลยเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายกับให้จำเลยและบริวารออกไปจากที่ดินดังกล่าวและให้จำเลยชดใช้ค่าเสียหาย จำนวน 63,000 บาท พร้อมดอกเบี้ย
จำเลยให้การว่า จำเลยรุกล้ำเนื้อที่ดินโจทก์เพียง 4.6 ตารางวาที่ดินบริเวณนั้นเนื้อที่ 25 ไร่ คิดราคาเช่าปีละ 4,500 บาทเท่านั้น ค่าเสียหายที่จำเลยรุกล้ำที่ดิน จึงคิดเป็นเงินค่าเช่าเพียง 84 สตางค์ ต่อเดือน แต่ราคาที่ดินตามราคาประเมินของสำนักงานที่ดินจังหวัดลพบุรี ราคาไร่ละ 60,000 บาท หรือตารางวาละ 150 บาทที่ดินโจทก์ไม่ได้ประกอบกิจการใด ๆ โดยเป็นสภาพที่ว่างเปล่าเหมาะแก่การทำนามากกว่าประกอบธุรกิจอย่างอื่น จำเลยไม่ได้ทราบและได้รับหนังสือบอกกล่าวจากโจทก์ ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้จำเลยรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างในส่วนที่รุกล้ำออกไปจากที่ดินของโจทก์ตามโฉนดเลขที่ 1845 ตำบลดีลังอำเภอพัฒนานิคม จังหวัดลพบุรี และส่งมอบที่ดินแก่โจทก์ในสภาพเรียบร้อย ห้ามจำเลยและบริวารเข้าเกี่ยวข้องในที่พิพาท ให้จำเลยใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์เป็นเงิน 3,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยคำขอของโจทก์นอกจากนี้ให้ยก
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “มีปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาจำเลยว่าที่ศาลชั้นต้นฟังข้อเท็จจริงและพิพากษาว่าจำเลยปลูกสร้างโกดังในที่ดินของโจทก์โดยสุจริตเป็นการพิพากษาเกินคำขอให้โจทก์หรือไม่ เห็นว่าศาลชั้นต้นกำหนดประเด็นข้อพิพาทในชั้นชี้สองสถานตามรายงานกระบวนพิจารณา ฉบับลงวันที่ 20 กันยายน 2531 ในประเด็นข้อที่ 2 ว่าจำเลยปลูกสร้างโกดังรุกล้ำที่ดินโจทก์เพียงใด ซึ่งโจทก์จำเลยมิได้คัดค้าน เหตุที่ศาลชั้นต้นกำหนดประเด็นข้อพิพาทเช่นนั้นก็เพราะจำเลยยอมรับว่าได้ปลูกสร้างโกดังที่รุกล้ำที่ดินโจทก์จริง แต่การปลูกสร้างรุกล้ำมีเนื้อที่ดินที่รุกล้ำน้อยกว่าที่โจทก์ฟ้อง และเหตุที่จำเลยต่อสู้ในประเด็นนี้ก็เพื่อผลเกี่ยวกับการกำหนดค่าเสียหายที่โจทก์เรียกร้อง ดังนั้นที่ศาลชั้นต้นฟังข้อเท็จจริงว่าจำเลยก่อสร้างรุกล้ำโดยสุจริต จึงเป็นการวินิจฉัยนอกประเด็น ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษามานั้น ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย ฎีกาจำเลยฟังไม่ขึ้น”
พิพากษายืน

Share