แหล่งที่มา : สำนักวิชาการ
ย่อสั้น
ผู้คัดค้านได้สมัครเป็นสมาชิกพรรค ก. เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม 2542 และได้สมัครเป็นสมาชิกพรรค ท. เมื่อวันที่ 13 มีนาคม 2544 ต่อมาผู้คัดค้านได้ลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรค ท. เมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2549 และวันเดียวกันนั้น ผู้คัดค้านได้ยื่นหลักฐานการสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรผู้คัดค้านจึงมีรายชื่อเป็นสมาชิกพรรคการเมืองเกินกว่า 1 พรรค ถือได้ว่าผู้คัดค้านมิได้เป็นสมาชิกพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่งแต่พรรคเดียวนับถึงวันรับสมัครเลือกตั้งเป็นเวลาติดต่อกันไม่น้อยกว่า 90 วัน ผู้คัดค้านจึงไม่มีคุณสมบัติเป็นผู้มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้งตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา 107 (4)
ย่อยาว
ผู้ร้องยื่นคำร้องขอให้ศาลฎีกาเพิกถอนการสมัครรับเลือกตั้งของผู้คัดค้าน
ผู้คัดค้านไม่ยื่นคำคัดค้าน
วันนัดพิจารณา ได้รับแจ้งจากผู้คัดค้านเป็นหนังสือว่าไม่สามารถมาศาล ขอให้ศาลพิจารณาคำร้องโดยไม่ขอคัดค้าน ศาลฎีกาเห็นว่า ข้อเท็จจริงตามคำร้องชัดเจนพอวินิจฉัยได้ จึงให้งดไต่สวน
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ข้อเท็จจริงรับฟังได้ตามคำร้องว่าจากการตรวจสอบข้อมูลผู้สมัครรับเลือกตั้งของสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งพบว่าผู้คัดค้านได้สมัครเป็นสมาชิกพรรคกิจสังคมเมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม 2542 และได้สมัครเป็นสมาชิกพรรคไทยรักไทยเมื่อวันที่ 13 มีนาคม 2549 ต่อมาผู้คัดค้านได้ลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคไทยรักไทยเมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2549 และวันเดียวกันนั้น ผู้คัดค้านได้ยื่นหลักฐานการสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ผู้คัดค้านจึงมีรายชื่อเป็นสมาชิกพรรคการเมืองเกินกว่า 1 พรรค ถือได้ว่าผู้คัดค้านมิได้เป็นสมาชิกพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่งแต่พรรคเดียวนับถึงวันรับสมัครเลือกตั้งเป็นเวลาติดต่อกันไม่น้อยกว่า 90 วัน ผู้คัดค้านจึงไม่มีคุณสมบัติเป็นผู้มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้งตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2540 มาตรา 107 (4)”
จึงมีคำสั่งให้เพิกถอนการสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของนายเฉลียว สวาทนา ผู้คัดค้าน