คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2022/2531

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยเป็นลูกจ้างของห้างโจทก์เมื่อรับเช็คที่บุคคลภายนอกจ่ายให้โจทก์ จำเลยต้องนำไปมอบให้หุ้นส่วนผู้จัดการห้างโจทก์ แต่จำเลยกลับนำเช็คนั้นไปเรียกเก็บเงินจากธนาคารโดยจำเลยลงลายมือชื่อของจำเลยและประทับตราสำคัญของห้างโจทก์ ดังนี้แม้จะเป็นการลงลายมือชื่อของจำเลยเอง แต่ก็เป็นการกระทำเพื่อลวงให้ธนาคารหลงเชื่อว่าเป็นการลงลายมือชื่อโดยผู้มีอำนาจกระทำการแทนโจทก์การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดฐานปลอมเอกสารสิทธิ.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 264, 265,334, 335
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา265 คำขออื่นให้ยก
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ ให้ยกฟ้องข้อหาปลอมเอกสารตามมาตรา 264,265 ด้วย
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงฟังได้ว่าโจทก์ประมูลการจ้างเหมาก่อสร้างสะพานจากกรมชลประทานได้แล้ว นำไปจ้างผู้อื่นรับเหมาช่วงจำเลยเป็นเพียงลูกจ้างโจทก์ มีหน้าที่ติดต่อและลงนามในสัญญากับหน่วยราชการและเอกชนที่โจทก์รับเหมาก่อสร้างเท่านั้น จำเลยรับเงินค่าก่อสร้างจากกรมชลประทานมาแล้ว 3 งวดรวมเป็นเงินประมาณ 5,000,000 บาทก็ได้นำมาให้นางแตงกวาซึ่งเป็นหุ้นส่วนผู้จัดการโจทก์ทุกงวด ซึ่งการรับเงินดังกล่าวกรมชลประทานได้สั่งจ่ายเงินเป็นเช็คของธนาคารแห่งประเทศไทยเช่นดังที่สั่งจ่ายเงินค่าก่อสร้างงวดที่ 4 ตามเช็คเอกสารหมาย จ.2 ฉะนั้นแม้จำเลยจะมีอำนาจรับเงินหรือเช็คจากกรมชลประทานแทนโจทก์ได้ดังกล่าวแต่จำเลยก็ไม่มีอำนาจลงลายมือชื่อจำเลยในเช็คตามเอกสารหมาย จ.2 ได้จำเลยต้องนำเช็คดังกล่าวมาให้นางแตงกวาซึ่งเป็นหุ้นส่วนผู้จัดการลงชื่อและประทับตราห้างโจทก์เพื่อนำไปเบิกเงินจากธนาคารผู้จ่ายดังเช่นที่ได้ปฏิบัติมาใน 3 งวดแรก การที่จำเลยไม่นำเช็คดังกล่าวมามอบให้นางแตงกวาแต่กลับนำไปลงลายมือชื่อจำเลยสองชื่อและประทับตราสำคัญของโจทก์ไว้ด้านหลังเช็คแล้วนำไปเข้าบัญชีของนายงามนั้นเป็นการทุจริต แม้จำเลยจะลงลายมือชื่อของจำเลยเองแล้วประทับตราของห้างโจทก์ แต่ก็เป็นการกระทำเพื่อลวงให้ผู้อื่น คือ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด สาขาอโศกดินแดง และธนาคารแห่งประเทศไทยหลงเชื่อว่าเป็นการลงชื่อสลักหลังเช็คโดยผู้มีอำนาจทำแทนห้างโจทก์ ทั้งจำเลยมิได้เป็นผู้แทนหรือตัวแทนของห้างโจทก์ไม่มีอำนาจลงชื่อเช่นนี้จนมีการเรียกเก็บเงินตามเช็คนี้ได้ การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดฐานปลอมเอกสารสิทธิ
พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา265.

Share