แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดฐานมีและจำหน่ายเฮโรอีนคนละจำนวนอันเป็นความผิดหลายกระทง ซึ่งตามกฎหมายต้องเรียงกระทงลงโทษ แต่ศาลชั้นต้นกลับพิพากษาวางบทลงโทษรวมกันมาให้จำคุกจำเลย 5 ปี เพิ่มโทษกึ่งหนึ่งเป็นจำคุก 7 ปี 6 เดือน เมื่อโจทก์มิได้อุทธรณ์ฎีกาขอให้เพิ่มเติมโทษจำเลย ศาลฎีกาจึงจะลงโทษจำเลยหนักกว่าที่ศาลชั้นต้นลงโทษไว้มิได้
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยมีเฮโรอีนไฮโดรคลอไรด์ไว้ในครอบครองโดยมิได้รับอนุญาตและได้ขาย จำหน่ายหรือจ่ายแจกซึ่งเฮโรอีนดังกล่าว ก่อนคดีนี้จำเลยเคยต้องคำพิพากษาถึงที่สุดของศาลอาญาให้จำคุก ๖ เดือน ฐานผิดพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษมาแล้ว ขอให้เพิ่มโทษและลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. ๒๔๖๕ ฯลฯ และริบของกลาง
จำเลยให้การปฏิเสธ แต่รับข้อเคยต้องโทษและพ้นโทษว่าจริงดังฟ้อง
ศาลชั้นต้นฟังว่า จำเลยมีและจำหน่ายเฮโรอีนจริงดังฟ้อง พิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. ๒๔๖๕ มาตรา ๔, ๔ ทวิ, ๑๔, ๒๐ ทวิ, ๒๐ ตรี, ๒๓, ๒๖, ๒๗, ๒๘, ๒๙ พระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๔๗๙ มาตรา ๙, ๑๐, ๑๑ พระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๐๒ มาตรา ๓, ๖, ๘ พระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่ ๔ ) พ.ศ. ๒๕๐๔ มาตรา ๓, ๔, ๕, ๖, ๗, ๑๒ ให้จำคุกจำเลย ๕ ปี เพิ่มโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษอีกกึ่งหนึ่งเป็นจำคุก ๗ ปี ๖ เดือน และให้ริบของกลาง
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า พยานหลักฐานของโจทก์ยังเป็นที่สงสัย พิพากษากลับให้ยกฟ้อง คืนธนบัตรชนิดสิบบาทของกลาง ๔ ฉบับแก่เจ้าของ ส่วนเฮโรอีนของกลางเป็นของผิดกฎหมายให้ริบ
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่า พยานหลักฐานของโจทก์ที่นำสืบมาฟังได้ว่า จำเลยมีเฮโรอีน ๒ หลอดไว้ในครอบครองโดยมิได้รับอนุญาต และได้จำหน่ายเฮโรอีน ๑ หลอดให้แก่สายลับด้วย
พิพากษากลับคำพิพากษาศาลอุทธรณ์เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. ๒๔๖๕ มาตรา ๒๐ ตรี ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๐๔ มาตรา ๗ และผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. ๒๔๖๕ มาตรา ๒๐ ทวิ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๐๔ มาตรา ๖ ควรต้องเรียงกระทงลงโทษจำเลย แต่คดีนี้ศาลชั้นต้นพิพากษาวางบทลงโทษรวมกันมาให้จำคุกจำเลย ๕ ปี เพิ่มโทษจำเลยกึ่งหนึ่งเป็นจำคุก ๗ ปี ๖ เดือน โจทก์มิได้อุทธรณ์ ศาลฎีกาจะลงโทษจำเลยหนักกว่านั้นมิได้ กำหนดโทษจึงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น.