คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1996/2527

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ล. เจ้าของที่ดินทำสัญญาจะขายที่ดินให้แก่ ม. โดย ให้ผ่อนชำระราคาต่อมา ม. โอนสิทธิตามสัญญาจะซื้อขายที่ดินดังกล่าวให้แก่ ก. โดย ล. ยินยอม แล้ว ก. โอนขายสิทธิตามสัญญาจะซื้อขายที่ดินดังกล่าวให้แก่ ว.อีกทอดหนึ่ง ในการโอนขายสิทธิกันระหว่างก. กับ ว. นั้น ได้ทำหนังสือสัญญาโอนกันตามเอกสารหมาย จ.2 ต่อหน้า ล. และจำเลย จำเลยในฐานะตัวแทนของ ล. ได้ลงชื่อเป็นพยานในเอกสารหมาย จ.2 ด้วย เมื่อ ว. รับโอนสิทธิมาแล้วก็ได้ผ่อนชำระราคาที่ดินต่อจากผู้จะซื้อคนก่อน ๆ ให้แก่จำเลย จำเลยก็รับชำระและออกใบเสร็จรับเงินให้แก่ ว. ดังนี้ถือได้ว่าเอกสารหมาย จ.2 เป็นหนังสือบอกกล่าวการโอนหนี้ไปยัง ล.ลูกหนี้และล. ได้ยินยอมด้วยในการโอนหนี้รายนี้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 306 แล้ว จำเลยในฐานะผู้จัดการมรดกของ ล. ต้องผูกพันตามสัญญาจะซื้อจะขายที่ดินดังกล่าว

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นผู้จัดการมรดกของนางสาววราภรณ์ มาลัยเพ็ชรจำเลยเป็นผู้จัดการมรดกของนางเหลี่ยมมิตรน้อย เดิมนางเหลี่ยมได้ทำสัญญาจะขายที่ดินให้แก่นางสาวมาเรียม บุตรแก้ว โดยให้ผ่อนชำระราคา๓๖ งวด ต่อมาได้มีการแก้ไขสัญญาจะซื้อขายดังกล่าว ให้แก่นางสาวกมลวรรณ ทองอุบล เป็นผู้ซื้อแทน เป็นผู้ซื้อแทน นางสาวกมลวรรณได้ผ่อนชำระราคาต่อมา แล้วนางสาวกมลวรรณทำสัญญาโอนสิทธิตามสัญญาจะซื้อขายดังกล่าวให้แก่นางสาววราภรณ์ มาลัยเพ็ชร โดยนางเหลี่ยมและจำเลยซึ่งเป็นตัวแทนของนางเหลี่ยมรู้เห็นยินยอมแล้ว นางสาววราภรณ์ได้ผ่อนชำระราคาที่ดินให้แก่จำเลยตลอดมา ต่อมานางเหลี่ยมและนางสาววราภรณ์ถึงแก่กรรม โจทก์ซึ่งเป็นผู้จัดการมรดกของนางสาววราภรณ์ได้นำเงินค่าที่ดินไปผ่อนชำระให้แก่จำเลย จำเลยไม่ยอมรับ อ้างว่านางเหลี่ยมถึงแก่กรรมไปแล้วและที่ดินตามสัญญาจะซื้อขายก็ได้ขายให้แก่บุคคลอื่นไปแล้ว โจทก์จึงขอเงินที่นางสาววราภรณ์ได้ผ่อนชำระไปแล้วคืน จำเลยไม่ยอมคืนให้ จึงขอให้บังคับจำเลยคืนเงินดังกล่าวพร้อมดอกเบี้ยแก่โจทก์
จำเลยให้การว่า นางสาววราภรณ์ไม่ใช่เป็นคู่สัญญากับนางเหลี่ยมโจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้อง การโอนสิทธิระหว่างนางสาวกมลวรรณกับนางสาววราภรณ์ ไม่ผูกพันนางเหลี่ยม เพราะมิได้มีการบอกกล่าวการโอนหนี้เป็นหนังสือ ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาให้จำเลยคืนเงินพร้อมดอกเบี้ยแก่โจทก์ตามฟ้อง
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งรับฎีกาเฉพาะปัญหาข้อกฎหมาย
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีนี้จำนวนทุนทรัพย์ที่พิพาทกันไม่เกินห้าหมื่นบาทศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น จึงเป็นคดีที่ห้ามมิให้คู่ความฎีกาในข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา ๒๔๘ และในการวินิจฉัยปัญหาข้อกฎหมาย ศาลฎีกาจำต้องถือตามข้อเท็จจริงที่ศาลอุทธรณ์ได้วินิจฉัยจากพยานหลักฐานในสำนวนซึ่งศาลอุทธรณ์ฟังข้อเท็จจริงว่า นางเหลี่ยมมารดาจำเลยได้ทำสัญญาจะขายที่ดินพิพาทให้แก่นางสาวมาเรียม ต่อมานางสาวมาเรียมได้โอนสิทธิตามสัญญาจะซื้อขายดังกล่าวให้แก่นางสาวกมลวรรณโดยนางเหลี่ยมยินยอมแล้ว และนางสาวกมลวรรณได้โอนขายสิทธิตามสัญญาจะซื้อขายนั้นให้แก่นางสาววราภรณ์ ในการโอนกันนี้ได้ทำหลักฐานเป็นหนังสือกันไว้ตามเอกสารหมาย จ.๒ โดยทำกันที่บ้านนางเหลี่ยม ต่อมานางเหลี่ยมและจำเลย จำเลยซึ่งเป็นตัวแทนของนางเหลี่ยมได้ลงชื่อเป็นพยานในเอกสารหมาย จ.๒ ด้วย หลังจากนั้นเมื่อนางสาววราภรณ์นำเงินค่าซื้อที่ดินมาผ่อนชำระให้ จำเลยในฐานะตัวแทนของนางเหลี่ยมก็ได้รับไว้และออกใบเสร็จรับเงินมอบให้แก่นางสาววราภรณ์
ที่จำเลยฎีกาว่า เอกสารหมาย จ.๒ อันเป็นหนังสือโอนสิทธิจะซื้อที่ดินระหว่างนางสาวกมลวรรณและนางสาววราภรณ์ มิใช่หลักฐานการบอกกล่าวการโอนหรือหลักฐานการยินยอมของนางเหลี่ยม ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๓๐๖ จึงไม่ผูกพันนางเหลี่ยมนั้น พิเคราะห์แล้วเห็นว่าเอกสารหมาย จ.๒ มีใจความสำคัญพอสรุปได้ว่า นางสาวกมลวรรณได้โอนสิทธิในที่ดินที่ซื้อผ่อนมาจากนางเหลี่ยมให้แก่นางสาววราภรณ์โดยให้นางสาวนวราภรณ์ผ่อนชำระราคาต่อไปจนกว่าจะครบ ๓๖ เดือนลงชื่อนางสาวกมลวรรณ ผู้มอบขายสัญญา นางสาววราภรณ์ผู้รับมอบและจำเลยในฐานะตัวแทนของนางเหลี่ยมได้ลงชื่อเป็นพยาน ทั้งได้ความว่าหนังสือสัญญาฉบับนี้กระทำที่บ้านของนางเหลี่ยม ต่อหน้านางเหลี่ยมและจำเลย ต่อมาเมื่อนางสาววราภรณ์ผ่อนชำระค่าที่ดินให้แก่จำเลย เลยยินยอมรับเงินและออกใบเสร็จรับเงินค่าที่ดินให้แก่นางสาววราภรณ์ตลอดมา เช่นนี้จึงพึงเห็นได้ว่า การที่นางสาวกมลวรรณโอนขายสิทธิจะซื้อขายที่ดินให้แก่นางสาววราภรณ์นั้น นางเหลี่ยมและจำเลยรู้เห็นยินยอม มิได้โต้แย้งคัดค้านแต่ประการใด ทั้งยินยอมปฏิบัติตามหนังสือโอนสิทธินั้นโดยจำเลยยอมรับเงินค่าที่ดินที่นางสาววราภรณ์ชำระให้ดังนั้น หนังสือสัญญาโอนสิทธิจะซื้อจะขายตามเอกสารหมาย จ.๒ย่อมเป็นหนังสือบอกกล่าวการโอนหนี้ไปยังนางเหลี่ยม และนางเหลี่ยมยินยอมด้วยในการโอนนั้น ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา ๓๐๖ จำเลยในฐานะผู้จัดการมรดกของนางเหลี่ยมจึงต้องผูกพันด้วย
พิพากษายืน

Share