แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้กรรมการตรวจฎีกาจำเลย อุทธรณคำพิพากษา ศาลอุทธรณกรุงเทพฯ
ย่อยาว
โจทย์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลอาญามาตรา ๒๔๙ โดยจำเลยบังอาจฆ่าแขกซะมาสคาน (บังคับอังกฤษ) ตาย ที่โรงสีไฟญี่ห้อจินเสง ตำบลบุคโล จังหวัดธนบุรี
เมื่อวันที่ ๓ มกราคม พุทธศักราช ๒๔๖๑ จำเลยให้การรับว่าได้เอาไม้ตีแขกซะมาสคานตายจริง แต่แก้ว่าได้กระทำเพื่อป้องกันตัว แลมีเหตุยั่วโทษะอย่างร้ายแรง ฯ
ศาลคดีต่างประเทศพิจารณาเห็นว่าจำเลยมีผิดตามาตรา ๒๕๑ คือฆ่าคนตายโดยไม่เจตนา จึงพิพากษาให้จำคุกจำเลยมีกำหนด ๖ ปี แต่ลดโทษลงเสียกึ่งหนึ่งตามมาตรา ๕๕ คงเหลือให้ลงโทษจำคุกจำเลยไว้มีกำหนด ๓ ปี ฯ
พนักงานอัยการแลจำเลยอุทธรณ ศาลอุทธรณปฤกษาทับสัตยในข้อลงโทษจำเลย แต่พิพากษาจำคุกจำเลยมีกำหนด ๕ ปี ซึ่งอาจจะให้เปนตามาตรา ๒๕๑ แต่หาได้กล่าวไว้ดังนั้นในคำพิพากษาไม่ ฯ
จำเลยทูลเกล้า ฯ ถวายฎีกา อ้างว่าตามเหตุผลในคดีจำเลยได้กระทำไปเพื่อป้องกันตัวเท่านั้น จำเลยควรได้รับผลตามาตรา ๕๐ แห่งประมวลอาญา ฯ
กรรมการศาลฎีกาได้ประชุมตรวจสำนวนตลอดแล้วข้อเท็จจริงซึ่งมีปรากฎชัดอยู่ในคำพิพากษาศาลล่างทั้ง ๒ นั้น แสดงให้เห็นว่าผู้ตายได้ยั่วโทษะจำเลยบ้าง แลตีจำเลยก่อนแต่กรรมการศาลฎีกาเห็นว่าการยั่วโทษะเช่นนั้น ไม่มีลักษณร้ายแรงพอที่จะบังคับคดีด้วยมาตรา ๕๕ ทั้งไม่มีพยานสนับสนุนข้อต่อสู้ของจำเลยที่ว่ากระทำการพอสมควรแก่เหตุ โดยมีความจำเปนเพื่อป้องกันชีวิตดังในมาตรา ๕๐ อาศรัยเหตุผลดังกล่าวมานี้กรรมการศาลฎีกาเห็นว่าการกำหนดโทษจำคุก ๕ ปี ตามที่ศาลอุทธรณได้พิพากษามานั้นไม่รุนแรงเกินสมควร จึงพร้อมกันพิพากษายืนตามศาลอุทธรณกรุงเทพ ฯ ให้ยกฎีกาจำเลยเสีย ฯ
วันที่ ๑๓ กรกฎาคม พระพุทธศักราช ๒๔๖๓