คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 199-200/2494

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ฟ้องข้อ 1 หาว่าจำเลยหลอกลวงฉ้อโกงเอาทรัพย์ไปข้อ 2 ว่า เมื่อได้ทรัพย์ไปแล้วจำเลยก็ยักยอกเอาทรัพย์นั้นเสีย ดังนี้ กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือ หาว่าจำเลยยักยอกเอาทรัพย์ที่จำเลยฉ้อโกงไปนั้นเอง จึงไม่เป็นความผิดฐานยักยอก ฉะนั้นต้องถือว่า ฟ้องเช่นนี้เป็นฟ้องหาว่าจำเลยทำผิดฐานฉ้อโกงฐานเดียว ฟ้องฎีกาของโจทก์ชี้แจงข้อเท็จจริงไปในทางความผิดฐานยักยอกและในฎีกาก็แสดงความประสงค์ขอให้ลงโทษจำเลยฐานยักยอก เมื่อคำบรรยายฟ้องของโจทก์ไม่เป็นความผิดฐานยักยอกแล้ว คดีก็ไม่มีทางลงโทษจำเลยฐานยักยอกตามที่โจทก์ฎีกาได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องหาว่า ข้อ ๑ จำเลยสมคบกันใช้อุบายหลอกลวงอันประกอบด้วยความเท็จมากล่าวกับนายพิศาลว่า มีญาติพี่น้องของจำเลยทางบ้านนอกต้องการซื้อสิ่งของหลายอย่าง จึงขอรับสิ่งของเพื่อเอาไปให้ญาติดู หากขายได้จะนำเงินมาชำระให้ ขายไม่ได้จะคืนสิ่งของ โดยจำเลยมีเจตนาทุจริตคิดหลอกลวงให้นายพิศาลส่งสิ่งของตามที่จำเลยต้องการให้แก่จำเลย นายพิศาลหลงเชื่อจึงมอบสิ่งของตามบัญชีท้ายฟ้องให้จำเลยไป
ข้อ ๒. เนื่องจากจำเลยพูดหลอกลวง นายพิศาลให้ส่งสิ่งของ และจำเลยได้รับมอบสิ่งของตามบัญชีท้ายฟ้องข้อ ๑ ไปแล้วนั้น จำเลยได้บังอาจมีเจตนาทุจริตคิดเบียดบังยักยอกเอาทรัพย์สิ่งของ ๆ นายพิศาลที่มอบให้แก่จำเลยดังกล่าวแล้วนั้นเป็นประโยชน์ส่วนตัวของจำเลยเสีย ขอให้ลงโทษตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา ๓๐๔,๓๑๔,๓๑๙
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยทั้งสองผิดฐานยักยอกทรัพย์ตามมาตรา ๓๑๙ จำคุกคนละ ๒ ปี
ศาลอุทธรณ์เห็นว่าฟ้องของโจทก์มีความประสงค์จะกล่าวโทษจำเลยฐานฉ้อโกง หาใช่ฟ้องทั้งสองฐานไม่ และข้อหาฐานฉ้อโกงนี้ฟ้องของโจทก์ไม่สมบูรณ์ ส่วนข้อเท็จจริงก็ฟังว่าไม่ได้หลอกลวง พิพากษากลับให้ยกฟ้อง
โจทก์ฎีกาว่า ฟ้องบรรยายหาว่าจำเลยกระทำผิดฐานฉ้อโกงหรือยักยอก และข้อเท็จจริงในทางพิจารณาก็เป็นความผิดฐานยักยอก จึงลงโทษได้
ศาลฎีกาเห็นว่า ฟ้องของโจทก์ข้อ ๑ หาว่าจำเลยหลอกลวงฉ้อโกงเอาทรัพย์ไปอันเป็นความผิดสำเร็จไปแล้ว ฟ้องข้อ ๒ ว่าเมื่อได้ทรัพย์ได้ทรัพย์ไปแล้ว จำเลยก็ยักยอกเอาทรัพย์นั้นเสีย ดังนี้ กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือหาว่าจำเลยยักยอกทรัพย์ที่จำเลยยักยอกทรัพย์ที่จำเลยฉ้อโกงไป การที่เอาทรัพย์ที่ฉ้อโกงไปเป็นประโยชน์ส่วนตัวนั้น ไม่ทำให้เกิดเป็นความผิดฐานยักยอกอีกฐานหนึ่ง ฉะนั้นฟ้องของโจทก์ในคดีนี้ จึงไม่เป็นฟ้องในความผิดฐานยักยอก
คดีนี้ฟ้องฎีกาของโจทก์ชี้แจงข้อเท็จจริงไปในทางความผิดฐานยักยอกและในฎีกาก็แสดงความประสงค์ขอให้ลงโทษจำเลยฐานยักยอก เมื่อคำบรรยายฟ้องของโจทก์ไม่เป็นความผิดฐานยักยอกแล้ว คดีก็ไม่มีทางลงโทษจำเลยฐานยักยอกตามที่โจทก์ฏีกาได้
จึงพิพากษายืน

Share