คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1984/2529

แหล่งที่มา : ADMIN

ย่อสั้น

ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษประหารชีวิตจำเลยที่1คู่ความไม่อุทธรณ์ศาลชั้นต้นส่งสำนวนที่เกี่ยวกับจำเลยที่1ไปยังศาลอุทธรณ์ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนคดีสำหรับจำเลยที่1ย่อมถึงที่สุดตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา245วรรคสอง.

ย่อยาว

โจทก์ ฟ้อง ว่า จำเลย ทั้ง ห้า กระทำ ผิด ต่อ กฎหมาย หลายบท หลายกรรมกล่าว คือ จำเลย ที่ 2 บังอาจ มี อาวุธปืน ลูกซอง สั้น และ กระสุนปืน1 นัด ไว้ ใน ครอบครอง โดย ไม่ รับ อนุญาต พา อาวุธปืน และ เครื่องกระสุนปืน ติดตัว ไป ใน ทางสาธารณะ โดย ไม่ รับ อนุญาต จำเลย ทั้ง ห้าบังอาจ ปล้น ทรัพย์ ของ ผู้อื่น โดย มี ปืน เหล็กขูดชาฟท์ กับ ไม้ คมแฝกเป็น อาวุธ มี เรือ เป็น ยานพาหนะ ใน การ ปล้นทรัพย์ ได้ ใช้ กำลังประทุษร้าย เจ้าทรัพย์ คนหนึ่ง โดย เจตนาฆ่า แต่ เจ้าทรัพย์ ไม่ ถึงแก่ ความตาย เพียง แต่ ได้ รับ อันตราย แก่ กาย ถึง สาหัส ส่วนเจ้าทรัพย์ อีก คนหนึ่ง ถูก ฆ่า ตาย เพื่อ ความ สะดวก ใน การ ปล้นทรัพย์เจ้าทรัพย์ อีก 2 คน ซึ่ง เป็น หญิง ถูก พา ไป เพื่อ การ อนาจาร และถูก ข่มขืน กระทำ ชำเรา โดย ใช้ ปืน บังคับ อัน มี ลักษณะ เป็น การโทรมหญิง แล้ว จำเลย ทั้ง ห้า ร่วมกัน ฆ่า เจ้าทรัพย์ ที่ เป็น หญิงทั้ง สอง เสีย โดย ทรมาน และ กระทำ ทารุณ โหดร้าย เพื่อ ปกปิด ความผิดและ หลีกเลี่ยง ให้ พ้น อาญา ขอ ให้ ลงโทษ ตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา83, 276, 277 ตรี, 278, 288, 289, 340, 340 ตรี พระราชบัญญัติ แก้ไขเพิ่มเติม ประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2525 มาตรา 3 ประกาศ ของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 11 พ.ศ. 2518 ข้อ 14, 15 พระราชบัญญัติ อาวุธปืนเครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ.2490 มาตรา 7, 8 ทวิ 72, 72 ทวิ พระราชบัญญติ อาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน (ฉบับที่ 7) พ.ศ. 2522มาตรา 7 คำสั่ง ของ คณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ฉบับที่ 44 พ.ศ. 2519ข้อ 3, 6, 7 ริบ อาวุธปืน ลูกซอง ไม้คมแฝก และ มีดของกลาง ส่วน อาวุธปืนรีวอลเวอร์ ขนาด .38 เลขทะเบียน กท.2504377 และ กระสุนปืน 4 นัด กับปลอก กระสุนปืน 2 ปลอก คืน แก่ ผู้เสียหาย
จำเลย ทั้ง ห้า ให้การ รับสารภาพ
ศาลชั้นต้น พิพากษา ว่า จำเลย ทั้ง ห้า มี ความผิด ฐาน ปล้นทรัพย์โดย มี และ ใช้ อาวุธปืน โดย ใช้ ยานพาหนะ ฐาน ฆ่า ผู้อื่น เพื่อ ปกปิดความผิด อื่น ของ ตน และ พยายาม ฆ่า ผู้อื่น เพื่อ ให้ เกิด ความ สะดวกใน การ ที่ จะ กระทำ ความผิด อย่างอื่น ฐาน พา หญิง ไป เพื่อ การ อนาจาร และ ฐาน ข่มขืน กระทำ ชำเรา โดย ใช้ อาวุธปืน อัน มี ลักษณะ เป็น การโทรมหญิง ตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 289 (7) มาตรา 289 (6), 80, มาตรา276 วรรคสอง มาตรา 340 วรรคสอง 340 ตรี ให้ เรียง กระทง ลงโทษ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 ลงโทษ ฐาน ฆ่า ผู้อื่น ตาม มาตรา 289 (7)ให้ ประหาร ชีวิต จำเลย ทั้ง ห้า ลงโทษ ฐาน พยายาม ฆ่า ผู้อื่น ตามมาตรา 289 (6), 80 จำคุก คน ละ ตลอดชีวิต ลงโทษ ฐาน ปล้น ทรัพย์ ตามมาตรา 340 วรรคสอง 340 ตรี จำคุก คนละ 30 ปี ลงโทษ ฐาน พา หญิง ไปเพื่อ การ อนาจาร ตาม มาตรา 284 จำคุก คนละ 2 ปี ลงโทษ ฐาน ข่มขืน กระทำชำเรา ตาม มาตรา 276 วรรคสอง จำคุก คนละ 15 ปี จำเลย ที่ 2 ยัง มีความผิด ฐาน มี อาวุธปืน และ พา อาวุธปืน ไป ใน ทางสาธารณะ โดย ไม่ รับอนุญาต ตาม พระราชบัญญัติ อาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิดดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ. 2490 มาตรา 7, 8 ทวิ, 72, 72 ทวิ ที่ แก้ไข แล้ว อีก สถานหนึ่ง ด้วย ให้ ลงโทษ จำเลย ที่ 2 ฐาน มีอาวุธปืน จำคุก 2 ปี และ ฐาน พา อาวุธปืน ไป ใน ทางสาธารณะ จำคุก 1 ปีแต่ โดย เหตุ ที่ ศาล วางโทษ ฐาน ฆ่า ผู้อื่น ให้ ประหารชีวิต จำเลยทั้ง ห้า แล้ว จึง ไม่ อาจ รวม โทษ จำคุก ใน ความผิด ฐาน อื่น เข้า อีกได้ จำเลย ทั้ง ห้า ให้การ รับสารภาพ ใน ชั้น จับกุม สอบสวน และ ชั้นศาล ตลอดมา เป็น ประโยชน์ แก่ การ พิจารณา อยู่ บ้าง กรณี มี เหตุบรรเทาโทษ ทาง พิจารณา ได้ ความ ว่า จำเลย ที่ 2 ที่ 3 ที่ 4 และ ที่ 5ได้ ร่วม กระทำผิด กับ จำเลย ที่ 1 เท่านั้น ไม่ ปรากฏ แน่ชัด ว่า จำเลยทั้ง สี่ นี้ ลงมือ ฆ่า ผู้ตาย ทั้ง สาม ด้วย ตนเอง เห็น สมควร ลดโทษให้ จำเลย ทั้ง สี่ นี้ คนละ หนึ่ง ใน สาม ตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา78 คง จำคุก จำเลย ที่ 2 ที่ 3 ที่ 4 และ ที่ 5 ไว้ ตลอดชีวิต ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 52 สำหรับ จำเลย ที่ 1 ซึ่ง เป็น ผู้ ชักชวน ให้จำเลย อื่น ร่วม กระทำผิด ถือ ได้ ว่า เป็น หัวหน้า พวก คนร้าย รายนี้ทั้ง จำเลย ที่ 1 ได้ ลงมือ ยิง ฆ่า ผู้ตาย เอง ถึง 2 ศพ และ ได้ร่วมกับ จำเลย อื่น ฆ่า ผู้ตาย อีก 1 ศพ ทั้ง ได้ ใช้ เหล็กขูดชาฟท์ แทงพยายาม ฆ่า นาย รัชชัย พานวัน ผู้เสียหาย อีก ด้วย ศาล พิเคราะห์พฤติการณ์ ของ จำเลย ที่ 1 แล้ว เห็น ว่า จำเลย ที่ 1 กระทำ ความผิดอย่าง อุกอาจ ด้วย ใจ เหี้ยมโหด อำมหิต ผิด วิสัย มนุษย์ ธรรมดา ไม่เกรงกลัว อาญา แผ่นดิน และ บาปกรรม นับว่า เป็น คนร้าย โดย สันดาน จึงเห็น สมควร ไม่ ลดโทษ ให้ คง ให้ ประหาร ชีวิต จำเลย ที่ 1 ให้ ตายตกไป ตาม กัน สถานเดียว เพื่อ มิให้ เป็น เยี่ยงอย่าง แก่ บุคคล อื่นต่อไป อาวุธปืน ลูกซอง ไม้ คมแฝก และ มีด ของกลาง ให้ ริบ ส่วน อาวุธปืนรีวอลเวอร์ ขนาด .38 หมายเลข ทะเบียน กท.2504377 และ กระสุนปืน 4 นัดกับ ปลอก กระสุนปืน 2 ปลอก คืน เจ้าของ
โจทก์ อุทธรณ์ ขอ ให้ ลงโทษ จำเลย ที่ 2 ที่ 3 ที่ 4 และ ที่ 5 หนักขึ้น
ศาลชั้นต้น ส่ง สำนวน เกี่ยวกับ จำเลย ที่ 1 ให้ ศาลอุทธรณ์ พิจารณาพิพากษา
ศาลอุทธรณ์ พิพากษา ยืน
จำเลย ที่ 1 ฎีกา
ศาลฎีกา วินิจฉัย ว่า ศาลชั้นต้น พิพากษา ลงโทษ ประหารชีวิต จำเลย ที่1 คู่ความ ไม่ สมบูรณ์ ศาลชั้นต้น ส่ง สำนวน ที่ เกี่ยวกับ จำเลย ที่ 1ไป ยัง ศาลอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์ พิพากษา ยืน คดี สำหรับ จำเลย ที่ 1 จึงถึงที่สุด แล้ว ตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 245 วรรคสองฎีกา ของ จำเลย ที่ 1 จึง ต้องห้าม ศาลฎีกา ไม่ รับ วินิจฉัย
พิพากษา ยก ฎีกา ของ จำเลย ที่ 1

Share