คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1984/2525

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

คำว่า ผู้จัดการ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 80 หมายถึงผู้จัดการที่เป็นผู้แทนของนิติบุคคล เมื่อโจทก์เป็นผู้แทนของจำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นนิติบุคคลประเภทบริษัทจำกัด มีอำนาจดำเนินกิจการแทนจำเลยที่ 1 โดยลงลายมือชื่อร่วมกับกรรมการอีกคนหนึ่งที่ระบุไว้และประทับตราสำคัญ ย่อมถือได้ว่าโจทก์เป็นผู้จัดการของจำเลยที่ 1
การที่โจทก์ฟ้องเรียกร้องให้จำเลยที่ 1 ชำระหนี้เงินกู้ ให้แก่โจทก์เห็นได้ชัดว่าประโยชน์ทางได้ทางเสียของโจทก์ซึ่งเป็นผู้จัดการของจำเลยที่ 1 กับของจำเลยที่ 1 เป็นปฏิปักษ์แก่กัน โจทก์จึงไม่มีอำนาจที่จะดำเนินคดีแทนจำเลยที่ 1 ส่วนจำเลยที่ 2 เป็นเพียงกรรมการของจำเลยที่ 1 ประโยชน์ทางได้ทางเสียของจำเลยที่ 2 มิได้เป็นปฏิปักษ์ต่อจำเลยที่ 1 ศาลจึงตั้งจำเลยที่ 2 ขึ้นเป็นผู้แทนเฉพาะการของจำเลยที่ 1 ในการดำเนินกระบวนพิจารณาต่อสู้คดีกับโจทก์ได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยที่ ๑ ได้กู้เงินโจทก์ไป ๒๐๐,๐๐๐ บาท โดยมีจำเลยที่ ๒ เป็นผู้ค้ำประกัน ครบกำหนดชำระเงินคืนจำเลยไม่ชำระขอให้พิพากษาบังคับให้จำเลยทั้งสองชำระหนี้เงินกู้ให้โจทก์
จำเลยที่ ๑ ยื่นคำให้การว่า ฟ้องของโจทก์เป็นความจริงทุกประการ
จำเลยที่ ๒ ให้การต่อสู้คดีหลายประการว่าจำเลยที่ ๒ ไม่ต้องรับผิดขอให้ยกฟ้อง
ระหว่างนัดสืบพยานโจทก์ จำเลยที่ ๒ ยื่นคำร้องว่า การที่จำเลยที่ ๑ โดยโจทก์ในฐานะกรรมการผู้จัดการ ยื่นคำให้การรับตามฟ้องโจทก์ทุกประการเป็นปฏิปักษ์ต่อจำเลยที่ ๑ โจทก์จึงไม่มีอำนาจกระทำแทนจำเลยที่ ๑ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๘๐ ต้องตั้งผู้แทนของจำเลยที่ ๑ ขึ้นเฉพาะการเพื่อต่อสู้คดีรักษาผลประโยชน์ของจำเลยที่ ๑ จำเลยที่ ๒ เป็นผู้มีส่วนได้เสียและเป็นกรรมการของจำเลยที่ ๑ ขอให้ศาลมีคำสั่งตั้งให้จำเลยที่ ๒ เป็นผู้แทนเฉพาะคดีของจำเลยที่ ๑ กับอนุญาตให้จำเลยที่ ๑โดยจำเลยที่ ๒ ยื่นคำให้การภายใน ๑๕ วัน
โจทก์แถลงคัดค้าน
ศาลชั้นต้นไต่สวนแล้วมีคำสั่งตั้งจำเลยที่ ๒ เป็นผู้แทนจำเลยที่ ๑ ขึ้นเฉพาะการ
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๘๐ บัญญัติว่า “ในการอันใด ถ้าประโยชน์ทางได้ทางเสียของนิติบุคคลฝ่ายหนึ่งกับของตัวผู้จัดการฝ่ายหนึ่งเป็นปฏิปักษ์แก่กัน ท่านว่าในการอันนั้นผู้จัดการเป็นอันไม่มีอำนาจเป็นผู้แทนได้ ในกรณีเช่นนี้ต้องตั้งแต่งผู้แทนขึ้นเฉพาะการนั้นตามบทบัญญัติมาตราก่อนนี้” คำว่า “ผู้จัดการ” ตามบทมาตรานี้หมายถึงผู้จัดการที่เป็นผู้แทนของนิติบุคคล เมื่อโจทก์เป็นผู้แทนของจำเลยที่ ๑ มีอำนาจดำเนินกิจการต่าง ๆ แทนจำเลยที่ ๑ ตามกฎหมายโดยลงลายมือชื่อร่วมกับกรรมการอีกคนหนึ่ง และประทับตราสำคัญของบริษัทดังที่ได้จดทะเบียนไว้ เช่นนี้ ย่อมถือได้ว่าโจทก์เป็นผู้จัดการของจำเลยที่ ๑ ตามความหมายแห่งบทกฎหมายดังกล่าวข้างต้น การที่โจทก์ฟ้องเรียกให้จำเลยที่ ๑ ชำระหนี้เงินกู้ที่จำเลยที่ ๑ กู้ยืมไปให้แก่โจทก์ กรณีเห็นได้ชัดว่าประโยชน์ทางได้ทางเสียของโจทก์เป็นปฏิปักษ์ต่อจำเลยที่ ๑ โจทก์จึงไม่มีอำนาจเป็นผู้แทนของจำเลยที่ ๑ ในอันที่จะดำเนินคดีนี้แทนจำเลยที่ ๑ ส่วนประโยชน์ทางได้ทางเสียของจำเลยที่ ๒ มิได้เป็นปฏิปักษ์ต่อจำเลยที่ ๑ ที่ศาลล่างทั้งสองตั้งให้จำเลยที่ ๒ เป็นผู้แทนจำเลยที่ ๑ ขึ้นเฉพาะการในการดำเนินกระบวนพิจารณาต่อสู้คดีกับโจทก์ชอบแล้ว
พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นฎีกาให้เป็นพับ

Share