แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องอุปโภคฯลฯ 2488 กับ พ.ร.บ.สำรวจและห้ามกักกันข้าว 2489 พ.ร.บ.ที่ใช้แทนกันหรือขัดกัน
พ.ร.บ.ฉบับแรกมีความมุ่งหมายเพื่อให้มีเครื่องอุปโภคบริโภค และ สิ่งของต่าง ๆ เพียงพอแก่ความต้องการของประเทศ ส่วนความมุ่งหมายใน พ.ร.บ.ฉบับหลังมีเพียงแต่สำรวจและห้ามกักกันข้าว เพราะฉะนั้น ถ้าละเมิด พ.ร.บ.ฉบับใด ก็ต้องใช้ พ.ร.บ.นั้นบังคับ
โจทก์ฟ้องหาว่า จำเลยกระทำผิดต่อ พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องอุปโภคบริโภคฯลฯ โดยมิได้แจ้งปริมาณและสถานที่เก็บข้าวสารต่อคณะกรรมการตามประกาศ ศาลต้องพิจารณาว่าจะเลยละเมิดต่อ พ.ร.บ.ที่กล่าวหรือไม่
ย่อยาว
คดี ๒ สำนวนนี้ โจทก์ฟ้องหาว่า จำเลยเป็นเจ้าของครอบครองข้าวสาร มีจำนวนมากกว่า ๓ กระสอบ หรือมีน้ำหนักกว่า ๓๒๔ กก. โดยไม่แจ้งปริมาณและสถานที่เก็บต่อกรรมการอำเภอท้องที่ เป็นการฝ่าฝืนประกาศคณะกรรมการจังหวัดสงขลาที่ออกตาม พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องอุปโภคบริโภค ๒๔๘๘ ขอให้ลงโทษตาม พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องอุปโภคบริโภคฯลฯ ๒๔๘๘
จำเลยรับสารภาพ
ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยตาม พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องอุปโภคบริโภคฯลฯ ๒๔๘๘
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า พ.ร.บ.สำรวจและห้ามกักกันข้าว๒๔๘๙ เป็น ก.ม.ที่ประกาศใช้ภายหลัง พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องอุปโภคบริโภคฯลฯ ๒๔๘๘ บัญญัติให้บุคคลมีข้าวอย่างอื่นนอกจากข้าวเปลือกไว้ในครอบครองโดยไม่ต้องแจ้งปริมาณและสถานที่เก็บได้ไม่เกินพัน กก. จำเลยจึงยังไม่มีความผิด พิพากษากลับให้ยกฟ้อง
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกา เห็นว่า พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องอุปโภคบริโภคฯลฯ ๒๔๘๘ กับ พ.ร.บ.สำรวจและห้ามกักกันข้าว ๒๔๘๙ มิใช่กฎหมายที่ใช้แทนกันหรือขัดกัน เพราะ พ.ร.บ.ฉบับแรกมีความมุ่งหมายเพื่อให้มีเครื่องอุปโภคบริโภค และสิ่งของต่าง ๆ เพียงพอแก่ความต้องการของประเทศ ส่วนความมุ่งหมายใน พ.ร.บ.ฉบับหลังมีเพียงแต่สำรวจและห้ามกักกันข้าว เพราะฉะนั้น ผู้ใดละเมิด พ.ร.บ.ฉบับใด ก็ใช้ พ.ร.บ.นั้นบังคับ เรื่องนี้โจทก์ฟ้องหาว่าจำเลยทำผิดต่อ พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องอุปโภคบริโภคฯ โดยมิได้แจ้งปริมาณและสถานที่เก็บข้าวสาร ต่อคณะกรรมการตามประกาศ ต้องพิจารณาว่าจำเลยได้ละเมิดต่อ พ.ร.บ.ที่กล่าวหรือไม่ ศาลชั้นต้น ฟังข้อเท็จจริงว่า จำเลยละเมิด ศาลอุทธรณ์ยังมิได้วินิจฉัยความข้อนี้ จึงพิพากษายกคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ให้ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า จำเลยทำผิดตาม พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องอุปโภคบริโภคฯลฯ ตามฟ้องหรือไม่ แล้วพิพากษาตามกระบวนความ