คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1979/2530

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยทำสัญญาเบิกเงินเกินบัญชีไว้กับธนาคาร และออกเช็คลงวันที่ 20 มกราคม 2527 สั่งจ่ายเงินให้โจทก์ ในวันที่เช็คถึงกำหนดจำเลยโทรศัพท์ถึง จ. ผู้จัดการธนาคารตามเช็ค ขอให้จ่ายเงินตามเช็คพิพาท จ. ตกลงจะจ่ายให้ ถือได้ว่าในวันที่เช็คพิพาทถึงกำหนด จำเลยมีเงินในบัญชีพอจ่ายตามเช็คพิพาทได้ การที่โจทก์นำเช็คพิพาทไปเรียกเก็บเงินในวันที่ 30 มกราคม 2527 และธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน จำเลยย่อมไม่มีความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2497 มาตรา 3(เทียบนัยฎีกาที่ 1875/2527)

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. ๒๔๙๗ มาตรา ๓
ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้ว มีคำสั่งประทับฟ้อง
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. ๒๔๙๗ มาตรา ๓ ลงโทษจำคุก ๓เดือน
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้ยกฟ้อง
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่า จำเลยสั่งจ่ายเช็คพิพาทลงวันที่ ๒๐ มกราคม ๒๕๒๗ จำนวนเงิน ๓๓,๙๐๐ บาท ในวันดังกล่าวจำเลยไม่มีเงินในบัญชีพอที่จ่ายตามเช็คพิพาท แต่จำเลยได้ทำสัญญาเบิกเงินเกินบัญชีไว้กับธนาคารตามเช็คและธนาคารตามเช็คเคยให้จำเลยเบิกเงินเกินวงเงินในสัญญาดังกล่าวถึง ๒๒๙,๐๐๐ บาทเศษก็มี เช้าวันที่เช็คพิพาทถึงกำหนดจำเลยโทรศัพท์ติดต่อผู้จัดการธนาคารตามเช็คขอให้จ่ายเงินตามเช็คพิพาทซึ่งเป็นจำนวนพอที่ผู้จัดการจะอนุมัติให้จ่ายให้และผู้จัดการได้ตกลงยินยอมจะจ่ายเงินตามเช็คพิพาทให้ถ้ามีการนำมาเรียกเก็บเงินในวันดังกล่าว โจทก์นำเช็คพิพาทไปเรียกเก็บเงินในวันที่ ๓๐ มกราคม ๒๕๒๗ ธนาคารตามเช็คปฏิเสธการจ่ายเงิน แล้ววินิจฉัยว่า จากข้อเท็จจริงดังกล่าวถือได้ว่าในวันที่ ๒๐ มกราคม ๒๕๒๗ จำเลยมีเงินในบัญชีพอจ่ายตามเช็คพิพาทได้ ถ้าหากโจทก์นำเช็คพิพาทไปเรียกเก็บเงินในวันดังกล่าวก็จะได้รับเงินตามเช็ค แต่โจทก์หาได้นำเช็คพิพาทไปเรียกเก็บเงินในวันที่สั่งจ่ายตามเช็คไม่ กลับนำไปเรียกเก็บเงินในวันที่ ๓๐ มกราคม ๒๕๒๗ หลังวันที่สั่งจ่ายเงินตามเช็คพิพาท ธนาคารตามเช็คจึงปฏิเสธการจ่ายเงิน จะฟังว่าจำเลยออกเช็คโดยเจตนาที่จะไม่ให้มีการใช้เงินตามเช็คนั้น หรือออกเช็คโดยในขณะที่ออกไม่มีเงินอยู่ในบัญชีอันจะพึงให้ให้เงินได้ หรือออกเช็คให้ใช้เงินมีจำนวนสูงกว่าจำนวนเงินที่มีอยู่ในบัญชีอันจะพึงให้ใช้เงินได้ในขณะออกเช็คนั้น อันจะเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. ๒๔๙๗ มาตรา ๓ ย่อมไม่ได้จำเลยจึงไม่มีความผิดตามฟ้อง เทียบตามนัยคำพิพากษาฎีกาที่ ๑๘๗๕/๒๕๒๗
พิพากษายืน.

Share