คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1978/2542

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

พนักงานอัยการโจทก์ฟ้องคดีอาญาต่อศาลชั้นต้นซึ่งมิใช่ ศาลแขวงโดยบรรยายฟ้องว่า จำเลยทั้งสองร่วมกันปลอม หนังสือมอบอำนาจของผู้เสียหาย ซึ่งเป็นเอกสารสิทธิและ ร่วมกันใช้เอกสารสิทธิปลอมดังกล่าว ขอให้ลงโทษตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 265 ซึ่งมีโทษจำคุกตั้งแต่ หกเดือนถึงห้าปี และปรับตั้งแต่หนึ่งพันบาทถึงหนึ่งหมื่นบาท ซึ่งข้อหาดังกล่าวเกินอำนาจพิจารณาของศาลแขวง กรณีจึง ไม่อยู่ภายใต้บังคับของพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแขวง และวิธีพิจารณาความอาญาในศาลแขวง พ.ศ. 2499 มาตรา 7 การที่โจทก์ฟ้องจำเลยทั้งสองต่อศาลชั้นต้นจึงชอบด้วยกฎหมายแล้วแม้ศาลชั้นต้นจะพิพากษาว่าจำเลยทั้งสองมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 264 และ 268 ไม่เป็นความผิดตามมาตรา 265 ก็ไม่ทำให้อำนาจฟ้องของโจทก์เปลี่ยนแปลงไป

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 137, 264, 265, 268, 33, 83, 91 และริบของกลาง
จำเลยทั้งสองให้การรับสารภาพว่า ได้ทำปลอมหนังสือมอบอำนาจและแจ้งข้อความอันเป็นเท็จแก่เจ้าพนักงานโดยใช้หรืออ้างเอกสารปลอมตามฟ้องแต่ปฏิเสธว่าหนังสือมอบอำนาจดังกล่าวไม่ใช่เอกสารสิทธิ และต่อสู้คดีว่าโจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องตามมาตรา 9 แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแขวงและวิธีพิจารณาความอาญาในศาลแขวง พ.ศ. 2499
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยทั้งสองมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 137, 264 วรรคหนึ่ง, 268 วรรคหนึ่ง ประกอบมาตรา 264 วรรคหนึ่ง ความผิดฐานใช้เอกสารปลอมเป็นกรรมเดียวกันกับความผิดฐานแจ้งข้อความเท็จแก่เจ้าพนักงาน ให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 268 วรรคหนึ่ง ประกอบมาตรา 264 วรรคหนึ่ง ซึ่งเป็นบทที่มีโทษหนักที่สุดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 และจำเลยทั้งสองเป็นผู้ปลอมเอกสารจึงคงให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 268 วรรคหนึ่งประกอบมาตรา 264 วรรคหนึ่ง แต่กระทงเดียว ตามมาตรา 268 วรรคสองให้จำคุกคนละ 8 เดือน และปรับคนละ 6,000 บาท จำเลยทั้งสองให้การรับสารภาพ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง มาตรา 78 คงจำคุกคนละ 4 เดือนและปรับคนละ 3,000 บาท โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 2 ปี ริบของกลาง
จำเลยทั้งสองอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษายืน
จำเลยทั้งสองฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า จำเลยทั้งสองฎีกาในปัญหาข้อกฎหมายว่าจำเลยทั้งสองร่วมกันปลอมและใช้เอกสารปลอมหนังสือมอบอำนาจระบุว่านางสาวรัชฎาพร หลาบโพธิ์ เป็นผู้มอบอำนาจซึ่งเป็นเอกสารธรรมดามีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 268 วรรคหนึ่ง ประกอบมาตรา 264 วรรคหนึ่ง กฎหมายกำหนดโทษอย่างสูงจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 6,000 บาท อยู่ในอำนาจพิจารณาของศาลแขวง ซึ่งโจทก์ต้องฟ้องจำเลยทั้งสองภายในระยะเวลาที่กำหนดไว้ในมาตรา 7 แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแขวงและวิธีพิจารณาความอาญาในศาลแขวง พ.ศ. 2499 เมื่อพ้นกำหนดเวลาตามมาตรา 7 แล้ว โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องตามมาตรา 9 เห็นว่าโจทก์บรรยายฟ้องคดีนี้ว่าจำเลยทั้งสองร่วมกันปลอมหนังสือมอบอำนาจของผู้เสียหาย ซึ่งเป็นเอกสารสิทธิและร่วมกันใช้เอกสารสิทธิปลอมดังกล่าว ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 265 ซึ่งมีโทษจำคุกตั้งแต่หกเดือนถึงห้าปี และปรับตั้งแต่หนึ่งพันบาทด้วย ซึ่งข้อหาดังกล่าวเกินอำนาจพิจารณาความอาญาในศาลแขวง พ.ศ. 2499 มาตรา 7 ดังจำเลยทั้งสองฎีกาการที่โจทก์ฟ้องจำเลยทั้งสองต่อศาลชั้นต้นจึงชอบด้วยกฎหมายแล้วแม้ศาลชั้นต้นจะพิพากษาว่าจำเลยทั้งสองมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 264 และ 268 ไม่เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 265 ก็ไม่ทำให้อำนาจฟ้องของโจทก์เปลี่ยนแปลงไป
พิพากษายืน

Share