คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1969/2511

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ผู้ขนส่งจะต้องรับผิดในการที่ของสูญหายหรือบุบสลายหรือส่งชักช้า อันเกิดแต่ความผิดของผู้ขนส่งคนอื่นหรือบุคคลอื่นซึ่งตนหากได้มอบหมายของนั้นไปอีกทอดหนึ่ง
ถ้าของนั้นได้ส่งไปโดยมีผู้ขนส่งหลายคนหลายทอดผู้ขนส่งทั้งนั้นจะต้องรับผิดร่วมกันในการสูญหายบุบสลายหรือส่งชักช้า
ใบรับใบตราส่งหรือเอกสารอื่นๆ ทำนองนั้นก็ดี ซึ่งผู้ขนส่งออกไปให้แก่ผู้ส่งนั้น ถ้ามีข้อความยกเว้นหรือจำกัดความรับผิดของผู้ขนส่งประการใด ความนั้นเป็นโมฆะเว้นแต่ผู้ส่งจะได้ตกลงด้วยโดยชัดแจ้ง
แม้สินค้าที่ส่งจะมีประกันภัยไว้ เมื่อสินค้าเกิดความเสียหายเพราะความผิดของผู้ขนส่ง ผู้รับตราส่งย่อมฟ้องผู้ขนส่งให้รับผิดชดใช้ค่าเสียหายได้โดยตรง หาจำต้องฟ้องผู้รับประกันภัยก่อนไม่

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์ได้ซื้อโต๊ะสั่นแยกแร่พร้อมเครื่องประกอบจากบริษัทไมน์แอนด์สะเมลเตอร์ฯ สหรัฐอเมริกา คิดราคาเป็นเงินไทย๔๑,๗๑๒ บาท ๓๘ สตางค์ ซึ่งได้ชำระราคาแล้ว จำเลยเป็นผู้รับจ้างขนส่งโต๊ะสั่นแยกแร่ดังกล่าวจากปีนังถึงจังหวัดภูเก็ตโดยรับขนถ่ายทอดจากเรือซึ่งขนมาจากสหรัฐอเมริกา ปรากฏว่ากลาสีคนงานเรือของจำเลยประมาท ทำให้โต๊ะสั่นแยกแร่ของโจทก์เสียหาย ไม่อาจซ่อมได้ โจทก์ต้องเสียภาษีขาเข้า ๔,๕๘๔ บาท ๒๕ สตางค์ และเสียค่าตรวจ ๒,๐๐๐ บาท ขอให้บังคับจำเลยจัดซื้อโต๊ะสั่นแยกแร่ชนิดเดียวกันมาใช้แทน ถ้าจัดซื้อไม่ได้ ให้ใช้ราคาและค่าเสียหายรวม ๔๘,๒๙๖.๖๓ บาท
จำเลยต่อสู้ว่า จำเลยรับขนโดยมีเงื่อนไขว่า ถ้าเกิดการเสียหายจำเลยจะรับผิดชอบใช้ค่าเสียหายอย่างสูงไม่เกิน ๑๐๐ ปอนด์สเตอร์ลิงต่อของหนึ่งหีบ จำเลยจะรับซ่อมของ แต่โจทก์ไม่ยอม โจทก์เอาประกันภัยไว้ ชอบที่จะเรียกร้องจากบริษัทประกันภัย
วันชี้สองสถาน คู่ความแถลงรับข้อเท็จจริงกันบางประการ และขอให้ศาลวินิจฉัยว่า จำเลยจะต้องรับผิดเท่าใด โดยคู่ความไม่ติดใจสืบพยาน
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยจัดซื้อโต๊ะสั่นแยกแร่ชนิดเดียวกันให้โจทก์แทนของเดิมที่เสียหาย ถ้าหาไม่ได้ ให้ใช้ราคาและค่าเสียหายตามฟ้อง
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่า บริษัทจำเลยเป็นผู้รับขนส่งโต๊ะสั่นแยกแร่ต่อจากปีนังมาจังหวัดภูเก็ต กลาสีคนงานเรือของจำเลยประมาท ทำให้หีบบรรจุโต๊ะสั่นแยกแร่และอุปกรณ์พลัดตกเสียหาย ๒ หีบ ไม่อาจซ่อมให้ดีเหมือนเดิมได้
ศาลฎีกาเห็นว่า ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๖๑๗บัญญัติว่า ผู้ขนส่งจะต้องรับผิดในการที่ของสูญหายหรือบุบสลายหรือส่งชักช้าอันเกิดแต่ความผิดของผู้ขนส่งคนอื่นหรือบุคคลอื่นซึ่งตนหากได้มอบหมายของนั้นไปอีกทอดหนึ่ง และมาตรา ๖๑๘ บัญญัติว่าถ้าของนั้นได้ส่งไปโดยมีผู้ขนส่งหลายคนหลายทอด ท่านว่าผู้ขนส่งทั้งนั้นจะต้องรับผิดร่วมกันในการสูญหาย บุบสลายหรือส่งชักช้าโต๊ะสั่นแยกแร่รายพิพาทเกิดความเสียหายขณะอยู่ในความรับผิดชอบของบริษัทจำเลย เมื่อบริษัทจำเลยเป็นผู้รับขนส่งต่อมาอีกทอดหนึ่งจากท่าเรือปีนัง บริษัทจำเลยก็ต้องร่วมรับผิดในความเสียหายต่อโจทก์ซึ่งเป็นผู้รับตราส่ง ข้อที่จำเลยอ้างว่าผู้ส่งได้ตกลงไว้กับบริษัทเรือผู้ขนส่งรายแรกจำกัดความรับผิดในการรับส่งของเพียงไม่เกิน ๑๐๐ ปอนด์ต่อ ๑ หีบนั้น ตามคำฟ้องคำให้การและคำรับของคู่ความไม่ปรากฏข้อเท็จจริงดังจำเลยกล่าวอ้าง แม้แต่ใบตราส่งหรือ Bill of Lading ที่จำเลยฎีกาว่ามีระบุข้อจำกัดความรับผิดของผู้ขนส่งไว้ ก็ไม่มีฝ่ายใดอ้างเป็นพยาน ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๖๒๕ บัญญัติว่า ใบรับใบตราส่งหรือเอกสารอื่น ๆ ทำนองนั้นก็ดี ถ้ามีข้อความยกเว้นหรือจำกัดความรับผิดของผู้ขนส่งประการใด ท่านว่าความนั้นเป็นโมฆะ เว้นแต่ผู้ส่งจะได้แสดงความตกลงด้วยชัดแจ้งในการยกเว้นหรือจำกัดความรับผิดเช่นว่านั้น เมื่อข้อเท็จจริงไม่ปรากฏข้อความยกเว้นหรือจำกัดความรับผิด ก็ไม่มีทางที่บริษัทจำเลยจะอ้างข้อจำกัดความรับผิดมาปฏิเสธไม่จ่ายค่าเสียหายให้แก่โจทก์ตามที่เป็นจริงไม่จำเป็นที่ศาลฎีกาจะต้องวินิจฉัยว่า โจทก์ผู้รับตราส่งซึ่งได้สิทธิทั้งหลายของผู้ส่งอันเกิดแต่สัญญารับขนมาตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๖๒๗ นั้น จะต้องรับข้อจำกัดความรับผิดของผู้ขนส่งมาด้วยหรือไม่
ข้อที่จำเลยฎีกาว่าสินค้ารายนี้มีประกันภัยทางทะเล ชอบที่โจทก์จะฟ้องเรียกค่าเสียหายจากบริษัทประกันภัย และให้บริษัทประกันภัยมาฟ้องไล่เบี้ยจากจำเลยเพื่อจำเลยจะได้ยกข้อจำกัดความรับผิดขึ้นต่อสู้นั้น ศาลฎีกาเห็นว่า เมื่อจำเลยผู้ขนส่งทำความเสียหายแก่โจทก์ โจทก์ก็ย่อมมีสิทธิฟ้องเรียกค่าเสียหายจากจำเลยได้โดยตรงหาจำต้องฟ้องบริษัทประกันภัยก่อนไม่
พิพากษายืน

Share