แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
แม้ในตอนต้นของคำฟ้องจะมีชื่อโจทก์เพียงผู้เดียวก็ตาม แต่ปรากฏจากคำฟ้องว่า โจทก์เป็นภริยาของผู้ตายและเป็นมารดาของผู้เยาว์ทั้ง 3 คน ทั้งได้เรียกร้องค่าอุปการะเลี้ยงดูให้การศึกษาของบุตรทั้ง 3 คนนั้นด้วย จึงถือได้ว่าโจทก์ฟ้องคดีในฐานะมารดาผู้แทนโดยชอบธรรมของบุตรผู้เยาว์ด้วยแล้ว
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยเป็นเจ้าของรถแท็กซี่ มีนายประสิทธิ์และนายแอ๊ดเป็นลูกจ้าง และขับรถคันดังกล่าวในทางการที่จ้างของจำเลยโดยความประมาทเป็นเหตุให้นายเส็งสามีโจทก์ถึงแก่ความตาย โจทก์กับนายเส็งมีบุตรด้วยกัน ๓ คน จึงขอให้จำเลยชดใช้ค่าทำศพนายเส็ง และค่าอุปการะเลี้ยงดูบุตรทั้ง ๓ คน รวมเป็นเงิน ๙๐,๐๐๐ บาท
จำเลยให้การว่า ค่าเสียหายที่โจทก์ฟ้องมากเกินไป และโจทก์ฟ้องในฐานะส่วนตัวไม่ได้ฟ้องในฐานะผู้แทนโดยชอบธรรมของผู้เยาว์ทั้ง ๓ คน จึงไม่มีสิทธิเรียกค่าอุปการะเลี้ยงดูส่วนของผู้เยาว์
ศาลชั้นต้นฟังว่า โจทก์เป็นภริยาของนายเส็งโดยชอบด้วยกฎหมาย และมีบุตรด้วยกัน ๓ คน จริงตามฟ้อง นายแอ๊ดลูกจ้างได้ขับรถในทางการที่จ้างด้วยความประมาทเป็นเหตุให้นายเส็งสามีโจทก์ถึงแก่ความตาย โจทก์ใช้จ่ายในการปลงศพ ๒๕,๐๐๐ บาท และเห็นสมควรกำหนดค่าอุปการะเลี้ยงดูให้โจทก์ ๒๕,๐๐๐ บาท ส่วนค่าขาดไร้อุปการะสำหรับบุตรนั้น เรียกไม่ได้ เพราะโจทก์มิได้ฟ้องในฐานะผู้แทนโดยชอบธรรมของบุตร จึงพิพากษาให้จำเลยใช้ค่าสินไหมทดแทนและค่าขาดไร้อุปการะเป็นเงิน ๕๐,๐๐๐ บาท พร้อมทั้งดอกเบี้ย ตั้งแต่วันที่ ๑๙ กุมภาพันธ์ ๒๕๑๔ จนกว่าจะชำระเสร็จ
โจทก์และจำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า แม้จะมิได้ระบุในช่องบุคคลผู้เป็นโจทก์ว่า นางซุยในฐานะมารดาผู้แทนโดยชอบธรรมของบุตรทั้งสามไว้ด้วย ก็ถือได้ว่านางซุยเป็นโจทก์ฟ้องคดีนี้ในฐานะมารดาผู้แทนโดยชอบธรรม จึงกำหนดค่าอุปการะเลี้ยงดูให้การศึกษาแก่บุตรโจทก์ ๓ คนรวมกัน ๑๕.๐๐๐ บาทตั้งแต่วันเกิดเหตุนั้นไม่ถูก ต้องคิดแต่วันที่ศาลขั้นต้นพิพากษาพิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำเลยใช้ค่าปลงศพ ค่าขาดไร้อุปการะตัวโจทก์ และค่าอุปการะเลี้ยงดูบุตรรวมทั้งสิ้นเป็นเงิน ๒๕,๐๐๐ บาท และดอกเบี้ยร้อยบะ ๗ ครึ่งต่อปีในต้นเงิน ๒๕,๐๐๐ บาท ตั้งแต่วันที่ ๑๙ กุมภาพันธ์ ๒๕๑๔ จนกว่าจะชำระเสร็จและดอกเบี้ยร้อยละ ๗ ครึ่งต่อปีในต้นเงิน ๕๐,๐๐๐ บาท ตั้งแต่วันที่ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาจนกว่าจะชำระเสร็จ นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาพิเคราะห์แล้วเห็นด้วยกับศาลอุทธรณ์ในข้อที่ว่า แม้ในตอนต้นของคำฟ้องจะมีชื่อนางซุย แซ่อึ้ง เป็นโจทก์เพียงผู้เดียว แต่นางซุยก็ฟ้องจำเลย ในฐานะมารดาผู้แทนโดยชอบธรรมของบุตรผู้เยาว์ทั้งสามได้ด้วย เพราะนางซุยเป็นภริยานายเส็งผู้ตาย และตามคำฟ้องก็ปรากฏชัดว่าโจทก์กับนายเส็งมีบุตร ๓ คน ทั้งได้เรียกร้องค่าอุปการะเลี้ยงดูให้การศึกษาของบุตรแต่ละคนไว้เป็นจำนวนเงินลดหลั่นกันตามอายุของบุตรทั้งสามนั้น ถือได้ว่านายซุยเป้นโจทก์ฟ้องคดีนี้ในฐานะมารดาผู้แทนโดยชอบธรนรมของขุตรผู้เยาว์ด้วย และที่ศาลอุทธรณ์กำหนดค่าอุปการะเลี้ยงดูให้การศึกษาบุตรทั้ง ๓ ค่าปลงศพ และค่าขาดอุปการะตัวโจทก์เป็นเงินทั้งสิ้น ๖๕,๐๐๐ บาทนั้น เป็นจำนวนที่สมควรแล้ว
พิพากษายืน