คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 636/2517

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

โจทก์จำเลยและผู้อื่นตกลงเล่นแชร์กัน โจทก์เป็นนายวงมีสิทธิได้เงินจากลูกวงคนอื่นก่อนโดยไม่ต้องประมูลและไม่ต้องเสียดอกเบี้ยแต่ต้องเป็นผู้รวบรวมเงินจากลูกวงเอาไปให้กับผู้ที่ประมูลได้ และผู้ประมูลได้ต้องทำสัญญากู้ให้แก่ลูกวงคนอื่นเป็นประกันการชำระหนี้โดยมอบให้โจทก์ไว้เพื่อเรียกเก็บเงินในภายหลัง เมื่อปรากฏว่าจำเลยประมูลแชร์ได้ ได้รับเงินไปแล้ว และได้ทำสัญญากู้มอบให้โจทก์ไว้แต่ครั้นผู้อื่นประมูลได้ จำเลยไม่ชำระเงินโจทก์ต้องชำระแทนไปโจทก์ก็มาฟ้องเรียกให้จำเลยชดใช้เงินและนำสืบว่ามูลหนี้ตามสัญญากู้เกิดจากการเล่นแชร์มิใช่การยืมเงินได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า เมื่อประมาณกลาง พ.ศ. 2512 โจทก์ตั้งวงแชร์โดยโจทก์เป็นหัวหน้าวงแชร์ จำเลยและบุคคลอื่นเป็นลูกวงแชร์ กำหนดอัตราค่าแชร์คนละ 1,000 บาท และในพ.ศ. 2513 โจทก์ตั้งวงแชร์อีก 2 วง กำหนดอัตราค่าแชร์คนละ 1,000 บาท กับ 500 บาท ซึ่งตามประเพณีการเล่นแชร์หัวหน้าวงจะได้เงินค่าแชร์ตามอัตราที่กำหนดโดยไม่ต้องมีการประมูลกันเป็นคนแรก ส่วนลูกวงต้องประมูลกันโดยถือการให้ดอกเบี้ยเป็นหลักในการประมูล ผู้ประมูลได้เป็นผู้ได้รับเงินไปถ้าลูกวงคนใดประมูลได้หรือยังประมูลไม่ได้ และไม่ได้ชำระเงินค่าแชร์หัวหน้าวงต้องรับผิดชดใช้เงินแทนและเรียกเงินจากลูกวงคนนั้นภายหลังในการเล่นแชร์โจทก์ได้ให้ผู้ประมูลได้ลงลายมือชื่อเป็นผู้กู้ในสัญญากู้ยืมเงินไว้เป็นหลักฐาน เมื่อชำระเงินแล้วก็คืนสัญญากู้ยืมเงินให้ไป จำเลยประมูลแชร์วง 1,000 บาทได้เมื่อวันที่ 9 กันยายน 2512 และวันที่ 12 มกราคม 2513 กับแชร์วง500 บาท ได้เมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2513 จำเลยได้รับเงินค่าแชร์ไปเรียบร้อยแล้ว และจำเลยได้ลงลายมือชื่อเป็นผู้กู้ในสัญญากู้ยืมเงินให้โจทก์ไว้ ต่อมาลูกวงคนอื่นประมูลแชร์ได้ โจทก์เรียกเก็บเงินจากจำเลยเพื่อให้แก่ผู้ประมูลแชร์นั้นไม่ได้เพราะจำเลยไม่ยอมชำระ โจทก์ต้องชำระเงินแทนจำเลยไป ต่อมาวงแชร์เลิก จำเลยชำระให้โจทก์บางราย โจทก์ได้คืนสัญญากู้ยืมเงินให้จำเลยไปตามจำนวนที่จำเลยชำระ คงเหลือเงินที่จำเลยยังไม่ได้ชำระอีก 7,500 บาทโจทก์ทวงถาม จำเลยไม่ชำระ จึงขอศาลพิพากษาให้จำเลยชำระเงินค่าแชร์ที่ยังค้างอยู่อีก 7,500 บาทแก่โจทก์ กับให้จำเลยชำระค่าธรรมเนียมและค่าทนายความแทนโจทก์

จำเลยให้การว่า โจทก์เป็นนายวงแชร์ จำเลยและบุคคลอื่นเป็นลูกวง แชร์มี 2 วง วงหนึ่งมือละ 1,000 บาท อีกวงหนึ่งมือละ 500 บาท แต่ละวงมีคนเล่น 12 คน ตกลงกันให้โจทก์มีสิทธิพิเศษได้เงินก่อนโดยไม่ต้องประมูล แต่มิได้ตกลงกันว่าถ้าผู้เล่นไม่ชำระเงินค่าแชร์โจทก์ต้องรับผิดชดใช้แทน เมื่อวันที่ 9 กันยายน 2512 จำเลยประมูลแชร์วง 1,000 บาท และวันที่ 22 มีนาคม 2513 จำเลยประมูลแชร์วง 500 บาทได้ เมื่อประมูลได้แล้ว จำเลยทำสัญญากู้ให้ผู้เล่นไว้ทุกคนโดยลงลายมือชื่อเป็นผู้กู้ ข้อความอื่นยังมิได้กรอกมอบให้โจทก์ยึดไว้ สัญญาที่โจทก์นำมาฟ้อง โจทก์กรอกข้อความเอาเองจำเลยชำระเงินให้ผู้เล่นทุกคน เว้นแต่รายนายเลี่ยงตง 1,000 บาทนางเยื้อน และนายกุ่ย 500 บาท ฟ้องโจทก์ไม่สมบูรณ์ตามกฎหมายโจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง เพราะผู้เสียหายไม่ได้มอบอำนาจให้ฟ้องคดีแทน ผู้เสียหายไม่ได้โอนสิทธิเรียกร้องให้โจทก์ จำเลยไม่ได้รับการบอกกล่าวเรื่องการโอนสิทธิเรียกร้อง สัญญากู้มิได้ปิดอากรแสตมป์ตามกฎหมาย

ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ว พิพากษาให้จำเลยใช้เงิน 7,500 บาทแก่โจทก์ กับให้จำเลยใช้ค่าธรรมเนียมและค่าทนายความ 250 บาทแทนโจทก์

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน ให้จำเลยเสียค่าทนายความชั้นอุทธรณ์100 บาทแทนโจทก์

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาได้ตรวจสำนวนและประชุมปรึกษาแล้ว ข้อเท็จจริงที่คู่ความมิได้โต้เถียงกันฟังเป็นยุติว่าโจทก์ จำเลยและบุคคลอื่นเล่นแชร์กันโดยโจทก์เป็นหัวหน้าวงมี 4 วง ๆ ละ 1,000 บาท 2 วงและวงละ 500 บาท 2 วง มีผู้เล่นวงละ 12 คน วิธีเล่นประมูลกันเดือนละครั้งผู้ใดให้ดอกเบี้ยสูงสุดเป็นผู้ประมูลได้ หัวหน้าวงเป็นผู้รวบรวมเงินจากลูกวงเอาไปให้กับผู้เล่นที่ประมูลได้ และผู้ประมูลได้ต้องทำสัญญากู้ให้แก่ลูกวงคนอื่นเป็นประกันการชำระหนี้โดยมอบให้โจทก์ไว้ แล้วโจทก์นำสัญญากู้ไปเก็บเงินจากผู้ประมูลได้อีกทีหนึ่ง เมื่อโจทก์ได้รับชำระเงินแล้ว ก็คืนสัญญากู้ให้ไป จำเลยประมูลแชร์ได้ทั้ง 4 วง โจทก์จ่ายเงินให้จำเลยไปครบแล้ว และจำเลยได้ทำสัญญากู้ให้ลูกวงคนอื่นมอบให้โจทก์ไว้

โจทก์อ้างว่า จำเลยค้างชำระเงินค่าแชร์ 7,500 บาท และจำเลยได้ทำสัญญากู้มอบให้โจทก์ไว้ตามเอกสารหมาย จ.1 ถึง จ.9 จำเลยต้องรับผิดชำระเงิน 7,500 บาทให้โจทก์ แต่จำเลยต่อสู้ว่าจำเลยค้างชำระเงินค่าแชร์เพียง 1,500 บาท และไม่ต้องรับผิดชำระให้โจทก์ ปัญหามีว่าจำเลยค้างชำระเงินค่าแชร์ 7,500 บาท ตามฟ้องจริงหรือไม่ ศาลฎีกาเห็นว่าโจทก์นำสืบว่าจำเลยได้ชำระเงินค่าแชร์ให้โจทก์บ้างแล้วและโจทก์ได้คืนสัญญากู้ให้จำเลยไป จำเลยคงค้างชำระเพียง 7,500 บาทตามเอกสารหมาย จ.1 ถึง จ.9 ซึ่งจำเลยรับว่าได้ทำสัญญากู้ตามเอกสารหมาย จ.1 ถึง จ.9 จริง พยานหลักฐานโจทก์มีน้ำหนักรับฟังได้ ส่วนที่จำเลยนำสืบว่ายังค้างชำระเฉพาะรายนายเลี่ยงคง 1,000 บาทและนายกุ่ย 500 บาท รวม 1,500 บาท โดยชำระรายอื่น ๆ ไปหมดแล้วแต่ไม่ได้ขอสัญญากู้คืนนั้นเป็นการเลื่อนลอย รับฟังไม่ได้ ข้อเท็จจริงฟังได้ว่าจำเลยค้างชำระเงินค่าแชร์ 7,500 บาท ตามฟ้องจริง

ปัญหาต่อไปมีว่า จำเลยต้องรับผิดชำระเงินค่าแชร์ 7,500 บาทแก่โจทก์หรือไม่ เพราะจำเลยต่อสู้ว่า การเล่นแชร์คงตกลงกันเพียงให้โจทก์มีสิทธิพิเศษได้เงินก่อนโดยไม่ต้องประมูล หาได้ตกลงกันว่าถ้าผู้เล่นไม่ชำระเงินค่าแชร์ โจทก์ต้องรับผิดชดใช้แทนไม่ โจทก์นำสืบได้ความว่า การเล่นแชร์ เริ่มเล่นหัวหน้าวงได้รับเงินจากลูกวงก่อนคนอื่นโดยไม่ต้องประมูลและไม่ต้องเสียดอกเบี้ย แต่ต้องรับผิดต่อลูกวงผู้ประมูลได้คนต่อไป เมื่อลูกวงคนใดไม่ชำระเงิน โจทก์ต้องชำระเงินแทนลูกวงคนนั้น ซึ่งนางซกเองและนายสิทธิชัยพยานจำเลยเบิกความรับสมในข้อนี้ ข้อเท็จจริงฟังได้ว่าถ้าลูกวงคนใดไม่ชำระเงิน โจทก์ซึ่งเป็นหัวหน้าวงต้องชำระเงินแทน เมื่อโจทก์ได้ชำระเงินค่าแชร์ให้ลูกวงคนอื่นที่ประมูลได้แทนจำเลยไปแล้วเป็นจำนวน 7,500 บาท จำเลยจึงต้องรับผิดชำระเงินจำนวนนี้แก่โจทก์

จำเลยฎีกาว่า เอกสารหมาย จ.1 ถึง จ.9 เป็นสัญญากู้ยืมเงินการที่โจทก์นำสืบว่ามูลหนี้มาจากการเล่นแชร์ จึงเป็นการไม่ชอบด้วยกฎหมาย ไม่มีผลใช้บังคับ สัญญากู้ระบุชื่อผู้ให้กู้ไว้แล้วย่อมมีเจตนาจะใช้บังคับระหว่างผู้ให้กู้กับผู้กู้เท่านั้น และไม่ได้มีการโอนสิทธิเรียกร้องแต่ประการใด โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้อง ข้อเท็จจริงได้ความว่าโจทก์จำเลยและบุคคลอื่นตกลงกันเล่นแชร์หาได้มีการกู้ยืมเงินกันไม่ แต่ตกลงกันใช้แบบพิมพ์สัญญากู้ยืมทำเป็นหลักฐานการเล่นแชร์ตามเอกสารหมาย จ.1 ถึง จ.9 ศาลฎีกาเห็นว่าเมื่อเป็นการเล่นแชร์กันระหว่างโจทก์จำเลยและบุคคลอื่น โจทก์ย่อมนำสืบว่าเป็นมูลหนี้เกิดจากการเล่นแชร์ตามเอกสารหมาย จ.1 ถึง จ.9 ได้ เมื่อโจทก์ได้ชำระเงินค่าแชร์แทนจำเลยไปแล้ว โจทก์ย่อมมีสิทธิเรียกร้องให้จำเลยชำระเงินแก่โจทก์ โจทก์จึงมีอำนาจฟ้องจำเลย ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาให้โจทก์ชนะคดี ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย ฎีกาของจำเลยฟังไม่ขึ้น

พิพากษายืน ให้จำเลยใช้ค่าทนายความชั้นฎีกา 150 บาท แทนโจทก์

Share