แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
เมื่อจำเลยจำต้องชำระค่าเช่าให้แก่โจทก์หรือผู้ซื้อบ้านเช่าที่จำเลยเช่าอยู่ จำเลยก็ย่อมต้องขวนขวายตามสมควรในการส่งมอบค่าเช่าแก่ผู้รับหรือทนายไว้ให้ได้ มิฉะนั้นแล้วถ้าจำเลยค้างส่งค่าเช่า 2 เดือนติดกัน จำเลยก็ไม่ได้รับความคุ้มครองตาม พระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าในภาวะคับขัน
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่าเมื่อวันที่ 27 ม.ค. 2494 จำเลยทำสัญญาเช่าบ้านเลขที่ 118 ถนนสาธรเหนือ ของนายอำพล คูสกุล ต่อมาวันที่ 27 ก.ย. 2497 นายอำพล คูสกุลได้ขายบ้านหลังนี้ให้แก่โจทก์ วันที่ 12 พ.ย. 2497 สำนักงานทนายความสมนึกและสุธีโดยรับมอบหมายจากโจทก์ได้แจ้งการโอนขายกรรมสิทธิ์บ้านหลังนี้ให้จำเลยทราบและให้จำเลยชำระค่าเช่าที่ค้างอยู่ 2 เดือนภายใน 7 วัน จำเลยไม่ปฏิบัติตามคำบอกกล่าว โจทก์จึงบอกเลิกสัญญาเช่ากับจำเลยและให้จำเลยคืนบ้านจำเลยมิได้ปฏิบัติ จึงมาฟ้อง
จำเลยให้การซึ่งเป็นประเด็นขึ้นมาสู่ศาลฎีกาว่า จำเลยมิได้ค้างค่าเช่า จำเลยไม่รู้ว่าจะชำระแก่ใคร ที่ไหน ทั้งฝ่ายผู้ซื้อก็ไม่ยอมให้เช่าต่อและไม่รับค่าเช่า
ระหว่างพิจารณานางกล่ำถึงแก่กรรม นางกุหลาบขอรับมรดกความแทน ศาลชั้นต้นไต่สวนแล้วอนุญาต
ถึงวันนัดสืบพยานจำเลยซึ่งมีหน้าที่นำสืบก่อน โจทก์ขาดนัดไม่มาศาล จำเลยขอให้ศาลสั่งว่าโจทก์ขาดนัดพิจารณา และจำเลยขอสืบพยานต่อไป ศาลสั่งว่าโจทก์ขาดนัดพิจารณาและให้ดำเนินการสืบพยานจำเลยต่อไป เมื่อได้สืบพยานจำเลย 4 คนแล้ว จำเลยแถลงว่าไม่ติดใจสืบพยานอีก และโดยที่โจทก์ขาดนัดพิจารณา คดีจึงเป็นอันเสร็จสำนวน
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาให้ยกฟ้องโจทก์ในส่วนที่โจทก์ขอให้ขับไล่จำเลยและบริวาร
โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า การที่จำเลยไม่ได้ชำระค่าเช่าติดกัน 2 เดือนนั้นเป็นการผิดนัดชำระค่าเช่า 2 ครั้งติดกัน โดยจำเลยแก้ตัวว่าที่จำเลยไม่ชำระค่าเช่า 2 เดือนนั้นเพราะไม่รู้จะชำระแก่ใคร โดยยังไม่รู้ว่าใครเป็นเจ้าของบ้านกันแน่ ศาลฎีกาเห็นว่าข้อนี้ไม่เป็นข้อแก้ตัว เพราะจำเลยมีหน้าที่จะต้องชำระค่าเช่าแก่เจ้าของก็จำต้องปฏิบัติการเพื่อชำระค่าเช่า เช่น ชำระแก่สำนักงานสมนึกและสุธีอันเป็นสำนักงานทนายความที่โจทก์มอบหมายให้จัดการเรื่องนี้ก็ได้ แต่จำเลยก็มิได้ติดต่อจริงจังอย่างไร จึงไม่เป็นข้อแก้ตัวที่จะรับฟังได้ โจทก์มีสิทธิขับไล่จำเลยได้ตามข้อยกเว้นที่ให้ไว้ใน มาตรา 16(1) แห่ง พระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าในภาวะคับขันพ.ศ. 2489
จึงพิพากษาให้ขับไล่จำเลยและบริวารออกไปใน 30 วัน นอกจากแก้นี้คงยืน