แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
คำแจ้งความของโจทก์ซึ่งได้แจ้งไว้ต่อสถานีตำรวจว่า “เมื่อวันที่ 31 ก.ค.05 เวลาประมาณ 16.00 น.เศษ นางทองใบหรือนางสมใจ ฤทธิ์ธรรยุทธร อายุ 31 ปี ภรรยาของผู้แจ้ง อยู่กันมา 10 ปีแล้ว ได้หนีออกจากบ้านไปพร้อมทั้งได้เอาของมีค่าไปด้วย คือ เงินสด 9,340 บาท สร้อยคอทองคำหนัก 1 สลึง พระนางพญาเลี่ยมทอง 1 องค์ และพาบุตรไปด้วย 2 คน ไม่ทราบว่าไปที่ใด ตามหาไม่พบ จึงมาแจ้งความไว้เป็นหลักฐานตาม ป.จ.ว.นี้” ไม่เป็นคำร้องทุกข์ตามกฎหมายถือได้ว่าโจทก์มิได้ร้องทุกข์
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์จำเลยเป็นสามีภริยากันโดยไม่ได้จดทะเบียนสมรส เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม 2505 เวลากลางวัน จำเลยได้เบียดบังเอาเงิน 9,340 บาท ของโจทก์ไปเป็นประโยชน์ส่วนตัวโดยทุจริตโจทก์ได้แจ้งความต่อพนักงานสอบสวนแล้วตั้งแต่วันที่ 4 สิงหาคม 2505ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 352, 353
ศาลชั้นต้นเห็นว่าคดีพอวินิจฉัยได้ ให้งดไต่สวนมูลฟ้อง แล้วพิพากษาว่า คำแจ้งความของโจทก์ไม่เป็นคำร้องทุกข์ โจทก์มาฟ้องเมื่อวันที่ 5 มีนาคม 2506 คดีโจทก์ขาดอายุความตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 96 ให้ยกฟ้องโจทก์
โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
คดีได้ความตามฟ้องโจทก์ว่า เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม 2505 โจทก์ได้แจ้งความต่อสถานีตำรวจนครบาลพญาไทว่า “เมื่อวันที่ 31 ก.ค. 05 เวลาประมาณ16.00 น. เศษ นางทองใบหรือนางสมใจฤทธิ์ธรรยุทธร อายุ 31 ปี ภรรยาของผู้แจ้ง อยู่กันมา 10 ปีแล้วได้หนีออกจากบ้านไปพร้อมทั้งได้เอาของมีค่าไปด้วย คือ เงินสด 9,340 บาท สร้อยคอทองคำหนัก 1 สลึง พระนางพญาเลี่ยมทอง1 องค์และพาบุตรไปด้วย 2 คน ไม่ทราบว่าไปที่ใด ตามหาไม่พบ จึงมาแจ้งความไว้เป็นหลักฐานตาม ป.จ.ว. นี้”
ศาลฎีกาเห็นว่า คำแจ้งความของโจทก์เป็นการแจ้งเรื่องจำเลยซึ่งเป็นภริยาโจทก์หนีไปจากบ้าน แม้จะแจ้งว่าได้เอาเงินและของมีค่าไปด้วย ก็มิได้กล่าวหาว่าเป็นเงินที่โจทก์ได้มอบหมายให้จำเลยรักษาไว้และจำเลยได้ยักยอกเอาไป และโจทก์ประสงค์จะให้เจ้าพนักงานติดตามจับจำเลยมาดำเนินคดี เป็นเรื่องโจทก์แจ้งให้เจ้าพนักงานรับทราบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นระหว่างโจทก์กับจำเลยว่า การที่จำเลยหนีไปนั้นได้เอาทรัพย์สินอะไรไปบ้าง เพื่อเป็นหลักฐานไว้เท่านั้นคำแจ้งความของโจทก์จึงไม่เป็นคำร้องทุกข์ตามกฎหมาย ถือได้ว่าโจทก์มิได้ร้องทุกข์ โจทก์ฟ้องคดีนี้เมื่อวันที่ 5 มีนาคม 2506 เกินกำหนด 3 เดือน นับแต่วันที่รู้เรื่องความผิดและรู้ตัวผู้กระทำผิด คดีโจทก์เป็นอันขาดอายุความตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 96 พิพากษายืน