คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1956/2497

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ภริยาไม่ชอบด้วยกฎหมายเข้าเป็นโจทก์ร่วมในคดีที่อัยการฟ้องว่าจำเลยฆ่าสามีโจทก์ร่วม สืบพยานโจทก์เสร็จแล้ว ความปรากฏขึ้นศาลจึงถอนคำสั่งที่อนุญาตให้เข้าเป็นโจทก์ร่วม แต่ในชั้นพิจารณาทนายของโจทก์ร่วมมิได้ซักถามพยานแต่อย่างใด จึงไม่มีเหตุที่จะให้พิจารณาใหม่
ทนายจำเลยแถลงขอสืบพยานอีกคนเดียวนอกนั้นไม่ติดใจสืบเพราะไม่ใช่ข้อสำคัญ ถึงวันนัดพยานไม่มาศาล จำเลยว่าป่วย แต่ไม่มีหลักฐานแสดงว่าป่วย จำเลยกลับขอถอนทนาย และขอสืบพยานที่ทนายจำเลยแถลงไม่ติดใจสืบ ดังนี้เป็นการประวิงความศาลไม่อนุญาตให้สืบพยานจำเลยตามที่ขอ

ย่อยาว

ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาลงโทษจำเลยตามมาตรา 249, 63 จำคุก 20 ปี จำเลยฎีกา มีข้อกฎหมายที่ศาลฎีกาพิพากษาดังนี้

“ส่วนข้อที่จำเลยฎีกาว่า เรื่องนี้เดิมนางเสาร์ร้องขอเข้าร่วมเป็นโจทก์กับพนักงานอัยการอ้างว่าเป็นภริยาผู้ตาย ศาลสั่งอนุญาตแล้วครั้นเมื่อสืบพยานโจทก์เสร็จ ความปรากฏว่า นางเสาร์มิได้เป็นภริยาอันชอบด้วยกฎหมายของผู้ตาย ศาลชั้นต้นได้สั่งถอนคำสั่งอนุญาตเดิมเช่นนี้ ศาลควรสั่งเพิกถอนกระบวนพิจารณาซึ่งดำเนินมาแล้วด้วยนั้นความข้อนี้ปรากฏว่าในชั้นสืบพยานโจทก์ทนายนางเสาร์มิได้ซักถามพยานแต่อย่างใด จึงไม่มีเหตุที่จะให้ดำเนินการพิจารณาใหม่แต่ต้น ดังที่จำเลยฎีกา เพราะไม่ทำให้จำเลยต้องเสียเปรียบในทางคดีแต่อย่างใด

ส่วนข้อที่จำเลยฎีกาว่า ศาลสั่งงดสืบพยานจำเลย และไม่อนุญาตให้จำเลยสืบพยานเพิ่มเติมเป็นการไม่ชอบนั้น ก็ได้ความว่าเดิมจำเลยแต่งนายประเคนเป็นทนาย ได้สืบพยานจำเลยไปหลายปากแล้วนายประเคนแถลงว่า จะขอสืบพระภิกษุทองใบ พยานนำอีกปากเดียวมาไม่ได้เพราะระหว่างเข้าพรรษา พยานนอกนั้นไม่ติดใจสืบ ขอเลื่อนไปวันที่ 7 ตุลาคม 2495 ถ้าถึงวันนัดพยานไม่มาก็ไม่ติดใจสืบ ศาลสั่งอนุญาต ครั้นถึงวันนัด จำเลยยื่นคำร้องขอถอนคำแถลงของทนายและขอสืบพยานปากอื่นต่อไปตามที่อ้างไว้ และพยานที่จะขอสืบนี้นายประเคนก็แถลงว่าไม่ใช่ข้อสำคัญแห่งคดี พระภิกษุทองใบนั้นจำเลยแถลงว่าป่วยมาไม่ได้แต่ไม่มีใบรับรองแพทย์แสดงจะขอสืบด้วยฝ่ายโจทก์แถลงค้าน เช่นนี้เห็นว่าเมื่อทนายจำเลยแถลงไว้ต่อศาลชัดเจนดังกล่าวแล้ว จำเลยจะมาขอเปลี่ยนแปลงใหม่โดยไม่มีเหตุสมควรอย่างใดนั้นเป็นที่เห็นได้ว่า เป็นการประวิงความ ฉะนั้นศาลชั้นต้นสั่งไม่อนุญาตให้สืบเป็นการชอบด้วยวิธีพิจารณาแล้ว ไม่มีเหตุจะเปลี่ยนแปลงฎีกาจำเลยฟังไม่ขึ้น”

พิพากษายืน

Share