คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2566/2532

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

มาตรา 24 และ 26 แห่งพระราชบัญญัติการธนาคารพาณิชย์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2522 เป็นบทบังคับให้ธนาคารพาณิชย์ ที่ประสงค์จะเพิ่มทุนโดยการออกหุ้นใหม่ต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้มิใช่เป็นเรื่องให้สิทธิธนาคารพาณิชย์ ที่จะเลือกปฏิบัติ การที่ธนาคารจำเลยขายหุ้นที่เพิ่มทุนโดยมิได้ออกหนังสือชี้ชวนให้ประชาชนทราบและมีโอกาสเข้าซื้อหุ้น จึงมีความผิดตามมาตรา 26
โจทก์ร่วมเป็นผู้ถือหุ้นของจำเลย ไม่ปรากฏว่าได้รับความเสียหาโดยตรงจากการที่จำเลยไม่ได้ออกหนังสือชี้ชวนให้ประชาชนซื้อหุ้นที่ออกในการเพิ่มทุน โจทก์ร่วมจึงมิใช่ผู้เสียหายตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 2(4) ย่อมไม่มีอำนาจฟ้องหรือร้องขอเข้าร่วมเป็นโจทก์กับพนักงานอัยการได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติการธนาคารพาณิชย์พ.ศ. ๒๕๐๕ มาตรา ๔, (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๒๒ มาตรา ๓, ๒๔, ๒๖ พระราชบัญญัติบริษัทมหาชนจำกัด พ.ศ. ๒๕๒๑ มาตรา ๒๔
จำเลยให้การปฏิเสธ
ระหว่างพิจารณานายประชายื่นคำร้องขอเข้าเป็นโจทก์ร่วมศาลชั้นต้นอนุญาต
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติการธนาคารพาณิชย์ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๒๒ มาตรา ๒๔, ๒๖
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ร่วมและจำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงฟังได้ว่าจำเลยเป็นธนาคารพาณิชย์ ซึ่งจัดตั้งขึ้นเป็นบริษัทจำกัดตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ได้รับอนุญาตให้ประกอบการธนาคารอยู่ก่อนวันที่พระราชบัญญัติการธนาคารพาณิชย์ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๒๒ ใช้บังคับ ทั้งยังมิได้จดทะเบียนเป็นบริษัทมหาชนจำกัด ต่อมาหลังจากกฎหมายดังกล่าวใช้บังคับแล้วจำเลยได้จดทะเบียนเพิ่มทุนโดยการออกหุ้นใหม่และขายหุ้นใหม่ โดยไม่ได้ออกหนังสือชี้ชวนให้ประชาชนซื้อหุ้นที่ออกนั้น ปัญหาว่าโจทก์ร่วมเป็นผู้เสียหายหรือไม่ เห็นว่โจทก์ร่วมเป็นเพียงผู้ถือหุ้นคนหนึ่งของจำเลยเท่านั้น ไม่ปรากฏว่าได้รับความเสียหายจากการกระทำของจำเลยโดยตรง โจทก์ร่วมจึงมิใช่ผู้เสียหายตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๒(๔) ย่อมไม่มีอำนาจฟ้องหรือร้องขอเข้าร่วมเป็นโจทก์กับพนักงานอัยการ
ปัญหาว่าจำเลยมีความผิดตามมาตรา ๒๔ และ ๒๖ แห่งพระราชบัญญัติการธนาคารพาณิชย์ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๒๒ หรือไม่ พิเคราะห์มาตรา๒๖ และ ๒๔ วรรคแรก ที่ใช้ถ้อยคำว่า “ให้ธนาคารพาณิชย์ดำเนินการตามหลักเกณฑ์ดังต่อไปนี้” แล้ว เห็นว่า เป็นเรื่องที่กฎหมายกำหนดเป็นข้อบังคับให้ธนาคารพาณิชย์ที่ประสงค์จะเพิ่มทุนโดยการออกหุ้นใหม่ต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ที่กฎหมายได้วางไว้ มิใช่ให้สิทธิธนาคารพาณิชย์ที่จะเลือกปฏิบัติ และจากข้อความในบันทึกหมายเหตุเกี่ยวกับเหตุผลในการประกาศใช้กฎหมายฉบับนี้ย่อมเห็นได้ว่า รัฐมุ่งหมายที่จะส่งเสริมให้ประชาชนได้มีโอกาสเข้าไปมีส่วนร่วมในการประกอบกิจการในธนาคารพาณิชย์ที่ขอเพิ่มทุนนั้นด้วย ฉะนั้น การที่จำเลยขายหุ้นดังกล่าวโดยมิได้ออกหนังสือชี้ชวนให้ประชาชนทราบและมีโอกาสเข้าซื้อหุ้นดังกล่าวได้ด้วย จึงเป็นการขัดต่อเจตนารมณ์และฝ่าฝืนต่อกฎหมายดังกล่าวโดยชัดแจ้ง จำเลยจึงต้องมีความผิดตามมาตรา ๒๖
พิพากษายืน.

Share