แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
สำนักงานราชพัสดุจังหวัดราชบุรีจำเลยที่ 1 เป็นเพียงส่วนราชการจังหวัดราชบุรี สังกัดกรมธนารักษ์ ไม่มีฐานะเป็นนิติบุคคลไม่อาจถูกฟ้องได้โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้องจำเลยที่ 1 จำเลยที่ 2 ดำรงตำแหน่งราชพัสดุจังหวัดราชบุรี มีอำนาจหน้าที่ดูแลกิจการเกี่ยวกับที่ราชพัสดุแทนกระทรวงการคลัง ไม่มีอำนาจหน้าที่เกี่ยวกับการออกโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์ การออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3 ก.)จะทับโฉนดที่ดินของโจทก์หรือไม่ จำเลยที่ 2 ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องด้วยทั้งการที่จำเลยที่ 2 ไม่ไประวังชี้แนวเขตหรือไม่ลงลายมือชื่อรับรองแนวเขตที่ดินของโจทก์ก็มิใช่การกระทำที่โต้แย้งสิทธิหรือหน้าที่ของโจทก์ตามกฎหมายแพ่ง และการที่จำเลยที่ 3 ซึ่งดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี มีหนังสือถึงเจ้าพนักงานที่ดินแจ้งให้ระงับการรับรองแนวเขตที่ดินของโจทก์ไว้ก่อนเป็นการสั่งในการปฏิบัติราชการตามหน้าที่ระหว่างจำเลยที่ 3ในฐานะผู้ว่าราชการจังหวัดกับเจ้าพนักงานที่ดินจังหวัด โดยมิได้โต้แย้งสิทธิหรือหน้าที่ของโจทก์ตามกฎหมายแพ่งแต่อย่างใด ทั้งในคำฟ้องก็ไม่ปรากฏว่าที่จำเลยที่ 3 สั่งเช่นนั้นเพื่อจะกลั่นแกล้งโจทก์หรือสั่งโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายอย่างไร โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้องจำเลยที่ 2 และที่ 3 เช่นกัน
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์ทั้งสองเป็นเจ้าของที่ดินโฉนดเลขที่ 9131ตำบลดอนทราย อำเภอปากท่อ จังหวัดราชบุรี เนื้อที่ 25 ไร่23 ตารางวา จำเลยที่ 1 เป็นส่วนราชการจังหวัดราชบุรี สังกัดกรมธนารักษ์ กระทรวงการคลัง มีจำเลยที่ 2 ซึ่งดำรงตำแหน่งราชพัสดุจังหวัดราชบุรีเป็นหัวหน้าส่วนราชการ จำเลยที่ 3 ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรีเป็นผู้บังคับบัญชาสูงสุดของส่วนราชการในจังหวัดราชบุรี เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 2535โจทก์ทั้งสองได้มอบอำนาจให้นาวาอากาศตรีสมศักดิ์ ตรีสุวรรณไปยื่นคำร้องต่อสำนักงานที่ดินจังหวัดราชบุรี เพื่อรังวัดสอบเขตที่ดินตามโฉนดดังกล่าว แต่ไม่สามารถดำเนินการได้เพราะมีรั้วลวดหนามขึงกั้นล้อมเส้นทางที่จะเข้าไปในที่ดินซึ่งเป็นรั้วของสำนักหุบผาสวรรค์ ขณะนี้อยู่ในความดูแลของกรมศาสนาและกรมธนารักษ์ตัวแทนโจทก์จึงขอให้เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดราชบุรีมีหนังสือแจ้งให้ศึกษาธิการจังหวัดราชบุรีและราชพัสดุจังหวัดราชบุรีจัดเจ้าหน้าที่ไปร่วมพิจารณาสอบเขต ต่อมาจำเลยที่ 3 มีหนังสือถึงสำนักงานที่ดินจังหวัดราชบุรีแจ้งให้ระงับการรับรองแนวเขตที่ดินของโจทก์ทั้งสอง เนื่องจากที่ดินบางส่วนอยู่ในรั้วสำนักงานหุบผาสวรรค์และทับกับที่ดินตามหนังสือรับรองการทำประโยชน์(น.ส.3 ก.) เลขที่ 169 ตำบลดอนทราย อำเภอปากท่อ จังหวัดราชบุรีของนายทองใบ สิงห์จันทร์ ซึ่งมูลนิธิชินนะปูโตอนุสรณ์ครอบครองอยู่ ที่ดินของโจทก์ทั้งสองไม่ได้เป็นของมูลนิธิชินนะปูโตอนุสรณ์และไม่อยู่ในความดูแลรับผิดชอบของจำเลยที่ 1 ขอให้พิพากษาว่าหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3 ก.)เลขที่ 169 ตำบลดอนทราย อำเภอปากท่อ จังหวัดราชบุรีออกทับโฉนดที่ดินเลขที่ 9131 ตำบลดอนทราย อำเภอปากท่อจังหวัดราชบุรี โดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ให้เพิกถอนหนังสือรับรองการทำประโยชน์ดังกล่าว และให้โจทก์ทั้งสองเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่ดินโฉนดเลขที่ 9131 เพียงลำพัง ห้ามผู้อื่นรบกวนกรรมสิทธิ์ให้จำเลยที่ 3 ถอนคำสั่งไม่รับรองแนวเขตโฉนดเลขที่ 9131ที่แจ้งไปยังเจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดราชบุรี หากจำเลยที่ 3ไม่ปฏิบัติตาม ให้ถือเอาคำพิพากษาเป็นการแสดงเจตนาต่อเจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดราชบุรี ให้จำเลยที่ 1 โดยจำเลยที่ 2หรือตัวแทนไปคอยระวังชี้แนวเขตการรังวัดสอบเขตที่ดินของโจทก์ทั้งสอง และให้จำเลยที่ 1 โดยจำเลยที่ 2 ลงชื่อรับรองแนวเขตด้วย หากไม่ปฏิบัติตามให้ถือเอาคำพิพากษานี้แทนจำเลยทั้งสาม
จำเลยทั้งสามให้การว่า โจทก์ทั้งสองไม่มีอำนาจฟ้องเพราะการออกโฉนดที่ดินเลขที่ 9131 และหนังสือรับรองการทำประโยชน์(น.ส.3 ก.) เลขที่ 169 นั้น เป็นอำนาจหน้าที่ของเจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดราชบุรีหรือนายอำเภอปากท่อ แล้วแต่กรณี จำเลยทั้งสามไม่มีหน้าที่เกี่ยวข้อง มูลนิธิชินนะปูโตอนุสรณ์ได้ครอบครองที่ดินตามโฉนดเลขที่ 9131 บางส่วนเป็นเวลาเกินกว่า 10 ปี โดยความสงบและโดยเปิดเผยด้วยเจตนาเป็นเจ้าของ มูลนิธิชินนะปูโตอนุสรณ์จึงได้กรรมสิทธิ์ที่ดินของโจทก์ทั้งสองบางส่วน โดยการครอบครองปรปักษ์คือที่ดินตามหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3 ก.)เลขที่ 169 ซึ่งศาลฎีกาได้มีคำพิพากษาตามคดีหมายเลขแดงที่ 3304/2532ให้ทรัพย์สินที่เป็นของมูลนิธิชินนะปูโตอนุสรณ์ตกเป็นของแผ่นดินหลังจากนั้นได้มีการตั้งผู้ชำระบัญชีและชำระบัญชีเสร็จสิ้นเป็นเวลากว่า 1 ปี จำเลยที่ 1 กรมธนารักษ์ กระทรวงการคลังได้ครอบครองที่ดินตามหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3 ก.)เลขที่ 169 มาเป็นเวลาเกินกว่า 1 ปี จึงมีสิทธิครอบครองที่ดินดังกล่าว จำเลยที่ 3 ไม่มีหน้าที่ออกคำสั่งรับรองหรือให้ผู้ใดรับรองแนวเขตที่ดินตามโฉนดเลขที่ 9131 ของโจทก์ทั้งสองขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
โจทก์ทั้งสองอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 3 พิพากษายืน
โจทก์ทั้งสองฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า มีปัญหาข้อกฎหมายที่ต้องวินิจฉัยตามฎีกาของโจทก์ทั้งสองว่า โจทก์ทั้งสองมีอำนาจฟ้องหรือไม่ ได้พิจารณาคำฟ้องและคำขอท้ายฟ้องแล้ว เห็นว่า สำหรับจำเลยที่ 1 เป็นเพียงส่วนราชการจังหวัดราชบุรี สังกัดกรมธนารักษ์ ไม่มีฐานะเป็นนิติบุคคล ไม่อาจถูกฟ้องได้ โจทก์ทั้งสองจึงไม่มีอำนาจฟ้องจำเลยที่ 1 สำหรับจำเลยที่ 2 ดำรงตำแหน่งราชพัสดุจังหวัดราชบุรีมีอำนาจหน้าที่ดูแลกิจการเกี่ยวกับที่ราชพัสดุแทนกระทรวงการคลังไม่มีอำนาจหน้าที่เกี่ยวกับการออกโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์ ดังนั้นการออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3 ก.)เลขที่ 169 ตำบลดอนทราย อำเภอปากท่อ จังหวัดราชบุรีจะทับโฉนดที่ดินของโจทก์ทั้งสองหรือไม่ จำเลยที่ 2ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องด้วย ทั้งการที่จำเลยที่ 2 ไม่ไประวังชี้แนวเขตหรือไม่ลงลายมือชื่อรับรองแนวเขตที่ดินของโจทก์ทั้งสองก็มิใช่การกระทำที่โต้แย้งสิทธิหรือหน้าที่ของโจทก์ทั้งสองตามกฎหมายแพ่ง สำหรับจำเลยที่ 3 ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี มีหนังสือถึงเจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดราชบุรีแจ้งให้ระงับการรับรองแนวเขตที่ดินของโจทก์ทั้งสองไว้ก่อนเนื่องจากที่ดินบางส่วนอยู่ภายในรั้วสำนักหุบผาสวรรค์และทับที่ดินตามหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3 ก.)เลขที่ 169 ก็เป็นการสั่งในการปฏิบัติราชการตามหน้าที่ระหว่างจำเลยที่ 3 ในฐานะผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรีกับเจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดราชบุรีโดยมิได้โต้แย้งสิทธิหรือหน้าที่ของโจทก์ทั้งสองตามกฎหมายแพ่งแต่อย่างใด ทั้งในคำฟ้องก็ไม่ปรากฏว่าที่จำเลยที่ 3สั่งเช่นนั้นเพื่อจะกลั่นแกล้งโจทก์ทั้งสองหรือสั่งโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายอย่างไร โจทก์ทั้งสองจึงไม่มีอำนาจฟ้องจำเลยที่ 2และที่ 3 เช่นกัน
พิพากษายืน