แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ
ย่อสั้น
โจทก์มิได้บรรยายฟ้องว่าจำเลยทั้งสองผลิตเฮโรอีนเพื่อจำหน่ายเพียงแต่บรรยายในฟ้องข้อก.ว่าจำเลยทั้งสองผลิตเฮโรอีนโดยวิธีแบ่งบรรจุส่วนฟ้องข้อ1ข.บรรยายว่าจำเลยทั้งสองร่วมกันมีเฮโรอีนจำนวน23หลอดไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายเท่านั้นหาได้หมายความว่าผลิตเฮโรอีนจำนวนดังกล่าวเพื่อจำหน่ายไม่จึงลงโทษจำเลยในข้อหาผลิตเฮโรอีนเพื่อจำหน่ายไม่ได้
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษพ.ศ. 2522 มาตรา 4, 7, 8, 15, 65, 66, 102ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 และริบของกลางที่เจ้าพนักงานเก็บรักษาไว้
จำเลยที่ 1 ให้การรับว่ามีเฮโรอีนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ปฏิเสธข้อหาผลิตเฮโรอีนและมีเฮโรอีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย
จำเลย ที่ 2 ให้การ ปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ว พิพากษาว่า จำเลยทั้งสองมีความผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 15 วรรคแรก,65 วรรคสอง, 66 วรรคแรก การกระทำเป็นกรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบท ลงโทษตามมาตรา 15 วรรคแรก, 65 วรรคสองซึ่งเป็นบทที่มีโทษหนักที่สุด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90ให้ประหารชีวิตจำเลยทั้งสอง จำเลยทั้งสองให้การรับสารภาพในชั้นจับกุมและจำเลยที่ 1 ให้การรับสารภาพในชั้นสอบสวนเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 ประกอบ มาตรา 52(2) คงจำคุกคนละ 50 ปี ริบของกลางที่เจ้าพนักงานเก็บรักษาไว้
จำเลยทั้งสองอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 3 พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยที่ 1 มีความผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 15 วรรคแรก,65 วรรคแรก, 66 วรรคแรก การกระทำของจำเลยที่ 1 เป็นความผิดกรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบทให้ลงโทษฐานผลิตเฮโรอีนอันเป็นบทที่มีโทษหนักที่สุด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 จำคุกตลอดชีวิต จำเลยที่ 1 ให้การรับสารภาพในชั้นจับกุมและชั้นสอบสวนลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 ประกอบมาตรา 53 คงจำคุก 25 ปี ให้ยกฟ้องโจทก์สำหรับจำเลยที่ 2 นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
โจทก์ ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “พิเคราะห์แล้ว ข้อเท็จจริงรับฟังได้ในเบื้องต้นว่าเมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2538ร้อยตำรวจตรีสุวรรณ นาทอง กับพวกกับจำเลยทั้งสองซึ่งเป็นสามีภริยา และยึดได้เฮโรอีนบรรจุในหลอดพลาสติก 1 หลอดจากจำเลยที่ 1 และเฮโรอีนบรรจุในหลอดกาแฟตัดสั้น 23 หลอดหลอดกาแฟเปล่าตัดสั้น 15 หลอด และไม้ไผ่สำหรับใช้หนีบหลอดกาแฟลนไฟปิดหัวท้าย วางอยู่บนพื้นบ้านของจำเลยทั้งสองคงมีปัญหาวินิจฉัยตามฎีกาของโจทก์ประการแรกว่า จำเลยที่ 2 ร่วมผลิตเฮโรอีนและมีเฮโรอีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายหรือไม่ ข้อเท็จจริงศาลฎีกาเชื่อว่าจำเลยที่ 2 ร่วมกันผลิตเฮโรอีนและมีเฮโรอีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายด้วย ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 3พิพากษายกฟ้องโจทก์สำหรับจำเลยที่ 2 นั้น ศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วยฎีกาของโจทก์ในข้อนี้ฟังขึ้น
ปัญหาวินิจฉัยประการต่อไปมีว่า โจทก์ได้บรรยายฟ้องว่าจำเลยทั้งสองได้ผลิตเฮโรอีนเพื่อจำหน่ายหรือไม่ เห็นว่า โจทก์มิได้บรรยายฟ้องว่า จำเลยทั้งสองผลิตเฮโรอีนเพื่อจำหน่ายเพียงแต่บรรยายในฟ้องข้อ 1 ก. ว่า จำเลยทั้งสองผลิตเฮโรอีนโดยวิธีแบ่งบรรจุ ส่วนฟ้องข้อ 1 ข. บรรยายว่า จำเลยทั้งสองร่วมกันมีเฮโรอีนจำนวนในฟ้อง ข้อ 1 ก. คือ 23 หลอดไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายเท่านั้น หาได้หมายความว่า ผลิตเฮโรอีนจำนวนดังกล่าวเพื่อจำหน่ายไม่ ดังนั้น ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 3พิพากษาว่า โจทก์มิได้บรรยายฟ้องว่า จำเลยทั้งสองผลิตเฮโรอีนเพื่อจำหน่าย จึงลงโทษจำเลยในข้อหานี้ไม่ได้จึงชอบแล้วฎีกาของโจทก์ในข้อนี้ฟังไม่ขึ้น”
พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยที่ 2 มีความผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 15 วรรคแรก, 65 วรรคแรก,66 วรรคแรก การกระทำของจำเลยที่ 2 เป็นความผิดกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษฐานผลิตเฮโรอีนอันเป็นบทที่มีโทษหนักที่สุดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 จำคุกตลอดชีวิตจำเลยที่ 2 ให้การรับสารภาพในชั้นจับกุม ลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 ประกอบด้วยมาตรา 53 คงจำคุกจำเลยที่ 2 มีกำหนด 25 ปี นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 3