แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ผู้ตายมีความสัมพันธ์ทางชู้สาวกับภรรยาจำเลย ก่อนเกิดเหตุผู้ตายพาภรรยาจำเลยไปค้างที่อื่น จำเลยจึงไปหาผู้ตาย ณ ที่ทำงานเพื่อขอให้ผู้ตายส่งภรรยาของจำเลยคืน ไม่ได้ตั้งใจไปทำร้ายผู้ตายเมื่อพบผู้ตาย ผู้ตายหลบหนีจำเลยเข้าไปในห้องน้ำ จำเลยจึงเกิดมีความโกรธขึ้นได้ตามเข้าไปแทงผู้ตายในห้องน้ำถึงแก่ความตายด้วยอาวุธที่จำเลยพกติดตัวมา ดังนี้ จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288 ไม่ผิดฐานฆ่าผู้ตายโดยไตร่ตรองไว้ก่อน
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยใช้เหล็กขูดชาร์ปแทงนายจงรักษ์ถึงแก่ความตายโดยเจตนาฆ่า และไตร่ตรองไว้ก่อนด้วยการเตรียมอาวุธเข้าไปทำร้ายผู้ตายในสถานที่ราชการ ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288,289(4) และริบเหล็กขูดชาร์ปของกลาง
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 289(4) วางโทษประหารชีวิต แต่จำเลยรับสารภาพชั้นสอบสวนและเบิกความรับว่าแทงผู้ตายจริงเป็นเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามมาตรา 78, 52 คงจำคุก 12 ปี ริบเหล็กขูดชาร์ปของกลาง
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 288 ให้จำคุกตลอดชีวิต ลดโทษกึ่งหนึ่งตามมาตรา 78, 53 คงจำคุกจำเลยไว้มีกำหนด 12 ปี นอกจากที่แก้นี้แล้วให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
โจทก์ฎีกาขอให้ลงโทษจำเลยฐานฆ่าคนตายโดยไตร่ตรองไว้ก่อน
จำเลยฎีกาขอให้ลงโทษสถานเบา โดยจำเลยกระทำผิดขณะบันดาลโทสะ
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า จำเลยมีความโกรธเคืองผู้ตายมาก่อนที่เป็นชู้กับภรรยาจำเลย แต่จำเลยไม่มีเจตนาจะทำร้ายผู้ตายมาก่อน จำเลยได้ติดต่อขอร้องให้ผู้ตายเลิกยุ่งเกี่ยวกับภรรยาจำเลย ผู้ตายก็ไม่เลิกยุ่งเกี่ยว กลับพาภรรยาของจำเลยไปค้างหลับนอนที่อื่น การที่จำเลยมาพบกับผู้ตาย (ที่กระทรวงคมนาคมซึ่งเป็นที่ทำงานของผู้ตาย) ครั้งนี้ก็ต้องการจะพบผู้ตายเพื่อให้ผู้ตายส่งภรรยาของจำเลยคืน เมื่อผู้ตายหลบหน้าหนีเข้าห้องน้ำ จำเลยก็ตามไปพบผู้ตายในห้องน้ำ เมื่อจำเลยพบก็ได้แทงผู้ตายถึงแก่ความตาย กรณีเพียงเท่านี้ ยังไม่บ่งชี้ว่าจำเลยฆ่าโดยจำเลยไตร่ตรองไว้ก่อน แม้จะได้ความว่าจำเลยมีอาวุธติดตัวมาด้วยก็ดี น่าเชื่อว่าเหตุเกิดขึ้นเพราะจำเลยโมโหที่ผู้ตายหลบหนีหน้าทำความยุ่งยากให้แก่จำเลย จำเลยจึงมีความโกรธขึ้นที่ผู้ตายพาภรรยาจำเลยไปแล้วมาขอพบก็ยังหลบหน้า จึงทำร้ายผู้ตาย ส่วนที่จำเลยอ้างว่าแทงผู้ตายขณะบันดาลโทสะ โดยอ้างข้อเท็จจริงว่าผู้ตายพูดดูหมิ่นจำเลยนั้น ศาลฎีกาเห็นว่ารับฟังข้อเท็จจริงนั้นไม่ได้
พิพากษายืน