แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ
ย่อสั้น
การที่พยานหลักฐานรวมอยู่ในสำนวนคดีอื่นซึ่งศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้นำสำนวนมาผูกรวมกับสำนวนอีกคดีหนึ่ง แต่ยังไม่ได้นำมาผูกรวม มิใช่กรณีเอกสารในสำนวนสูญหายหรือบุบสลายทั้งหมดหรือบางส่วน ทั้งศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาคดีเสร็จสิ้นแล้วย่อมไม่มีกรณีเป็นการขัดข้องต่อการพิจารณาพิพากษาคดี ไม่ต้องด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 53 ที่จะขอให้ศาลอุทธรณ์พิจารณาพิพากษาคดีใหม่
ย่อยาว
คดีสืบเนื่องมาจากศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระเงิน15,633 บาทพร้อมดอกเบี้ยให้โจทก์ โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์ภาค 1พิพากษาแก้เป็นว่าให้จำเลยชำระเงินตามฟ้องให้โจทก์ จำเลยฎีกาศาลชั้นต้นไม่รับฎีกาเพราะเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง
จำเลยยื่นคำร้องต่อศาลชั้นต้นขอให้ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิจารณาคดีใหม่โดยอ้างว่าจำเลยอ้างพยานหลักฐานในสำนวนคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 580/2533 ของศาลชั้นต้น ระหว่าง พนักงานอัยการจังหวัดขอนแก่น โจทก์ นายจักรชัย อัมพุนันท์ จำเลย ศาลชั้นต้นไม่มีคำสั่งให้นำสำนวนคดีดังกล่าวมาผูกรวมกับคดีนี้ซึ่งจำเลยอ้างคำเบิกความของจำเลยในคดีนั้น ศาลได้หมาย ล.33 ให้แยกเก็บไว้ในสำนวนดังกล่าว เมื่อศาลอุทธรณ์ภาค 1 ได้รับสำนวนพร้อมพยานหลักฐานแล้วได้พิพากษาแก้คำพิพากษาของศาลชั้นต้น โดยมิได้ตรวจดูสำนวนและพยานหลักฐานโดยครบถ้วนถือว่าเป็นการดำเนินกระบวนพิจารณาโดยไม่ชอบตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 235ขอให้ศาลอุทธรณ์พิจารณาคดีใหม่ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 53 ศาลชั้นต้นยกคำร้อง
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 1 มีคำสั่งว่า กรณีไม่ต้องด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 53 ศาลชั้นต้นสั่งชอบแล้ว ยกคำร้อง
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 53 บัญญัติว่า “ถ้ารายงาน คำพิพากษา คำสั่งหรือเอกสารอื่นใดที่รวมไว้ในสำนวนความซึ่งยังอยู่ในระหว่างพิจารณาหรือรอการบังคับของศาลสูญหายไป หรือบุบสลายทั้งหมดหรือแต่บางส่วนเป็นการขัดข้องต่อการชี้ขาดตัดสินคดีหรือบังคับคดี เมื่อศาลเห็นสมควรหรือเมื่อคู่ความฝ่ายที่เกี่ยวข้องยื่นคำขอโดยทำเป็นคำร้อง ให้ศาลสั่งคู่ความหรือบุคคลผู้ถือเอกสารนั้นนำสำเนาที่รับรองถูกต้องมาส่งต่อศาล ถ้าหากสำเนาเช่นว่านั้นทั้งหมดหรือบางส่วนหาไม่ได้ ให้ศาลมีคำสั่งให้พิจารณาคดีนั้นใหม่หรือมีคำสั่งอย่างอื่นตามที่เห็นสมควรเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม” ตามบทบัญญัติดังกล่าวมีความหมายว่าในระหว่างการพิจารณาคดีของศาลใดศาลหนึ่งหรือในกรณีที่ศาลมีคำพิพากษาแล้วแต่รอการบังคับคดี เอกสารต่าง ๆ ที่รวมอยู่ในสำนวนความเช่นรายงาน คำพิพากษา คำสั่งหรือเอกสารอื่น ๆ ได้สูญหายไปหรือบุบสลายทั้งหมดหรือแต่บางส่วนทำให้ขัดข้องต่อการชี้ขาดตัดสินหรือบังคับคดี เมื่อศาลเห็นสมควรหรือคู่ความฝ่ายที่เกี่ยวข้องยื่นคำขอโดยทำเป็นคำร้องให้ศาลสั่งให้คู่ความหรือผู้ถือเอกสารนำสำเนาที่รับรองถูกต้องมาส่งต่อศาลหากหาสำเนาทั้งหมดหรือบางส่วนไม่ได้ ทำให้ไม่สามารถชี้ขาดตัดสินคดีหรือขัดข้องต่อการบังคับคดีก็ให้ศาลมีคำสั่งให้พิจารณาคดีนั้นใหม่หรือมีคำสั่งอย่างอื่นตามที่เห็นสมควรเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม สำหรับกรณีของจำเลยปรากฏว่าพยานหลักฐานต่าง ๆ รวมอยู่ในสำนวนคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 580/2533 ของศาลชั้นต้น ซึ่งศาลชั้นต้นได้มีคำสั่งให้นำสำนวนดังกล่าวมาผูกรวมกับสำนวนคดีนี้แต่ยังไม่ได้นำมาผูกรวมกรณีไม่ใช่เอกสารในสำนวนสูญหายหรือบุบสลายทั้งหมดหรือบางส่วนทั้งศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ภาค 1 ได้พิพากษาคดีนี้เสร็จสิ้นไปแล้วไม่เป็นการขัดข้องต่อการพิจารณาพิพากษาคดี กรณีไม่ต้องด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 53 ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 1มีคำสั่งมานั้น ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย ฎีกาของจำเลยฟังไม่ขึ้น”
พิพากษายืน