คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1925/2534

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

เมื่อปรากฏว่าเหตุที่ไปรษณียภัณฑ์ สูญหายไปในระหว่างการขนส่ง ของจำเลย มิได้เกิดจากการทุจริตของพนักงานจำเลย จำเลยจึงต้อง รับผิดชดใช้ค่าเสียหายเฉพาะที่ไปรษณีย์นิเทศกำหนดไว้เท่านั้น

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยเป็นนิติบุคคลตามพระราชบัญญัติการสื่อสารแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2519 เมื่อวันที่ 2 มีนาคม 2527ห้างหุ้นส่วนจำกัดเอส.เค.เจมส์ ได้ส่งทับทิมเจียระไนและพลอยสีน้ำเงินเจียระไนจำนวน 8,411 เม็ด น้ำหนัก 976.16 กะรัต ราคา88,119.23 เหรียญสหรัฐ หรือคิดเป็นเงินไทย 2,024,539.31 บาทไปจำหน่ายให้บริษัทอาเมอร์เจม จำกัด ประเทศสหรัฐอเมริกาโดยฝากส่งต่อจำเลย เสียค่าธรรมเนียมส่งเป็นไปรษณียภัณฑ์ ลงทะเบียนต่างประเทศและผู้ส่งได้เอาประกันภัยสินค้าดังกล่าวสำหรับความเสียหายหรือสูญหายที่อาจเกิดขึ้นระหว่างการส่งไว้กับโจทก์การส่งดังกล่าวผู้ส่งได้แจ้งให้จำเลยทราบรายละเอียดของสิ่งที่บรรจุอยู่ภายในไปรษณียภัณฑ์ ตลอดจนน้ำหนักและราคาอันแท้จริงในแบบพิมพ์ตามระเบียบของจำเลยแล้วกับได้ดำเนินการผ่านพิธีการทางศุลกากรถูกต้องตามกฎหมาย แต่ปรากฏว่าพนักงานลูกจ้างของจำเลยจงใจหรือมิฉะนั้นก็ประมาทเลินเล่อไม่จดบันทึกรายการไปรษณียภัณฑ์ดังกล่าวในบัญชีคุมจำนวนและน้ำหนักของไปรษณียภัณฑ์ที่จะแยกชนิดและประเภทจัดส่งตามระเบียบ เพื่อใช้เป็นหลักฐานในการตรวจสอบและป้องกันการสูญหาย เป็นเหตุให้ไปรษณียภัณฑ์ ดังกล่าวถูกลักไปจากความดูแลรักษาของจำเลย พนักงานลูกจ้างของจำเลยต้องรับผิดในผลแห่งการกระทำดังกล่าวอันเป็นการละเมิดก่อให้เกิดความเสียหายแก่ห้างหุ้นส่วนจำกัด เอส.เค.เจมส์ และจำเลยในฐานะนายจ้างมีหน้าที่ต้องร่วมรับผิดในผลแห่งการละเมิดที่ลูกจ้างได้กระทำไปในทางการที่จ้างด้วย โจทก์ในฐานะผู้รับประกันภัยได้ชดใช้ค่าเสียหายที่เกิดขึ้นให้ห้างหุ้นส่วนจำกัด เอส.เค.เจมส์ ไปแล้วตามอัตราที่ระบุในกรมธรรม์ประกันภัย เป็นจำนวนเงิน 2,234,263.01บาท โจทก์จึงรับช่วงสิทธิของห้างหุ้นส่วนจำกัด เอส.เค.เจมส์ในอันที่จะเรียกร้องค่าเสียหายจำนวนดังกล่าวจากจำเลยได้ตามกฎหมายโจทก์ทวงถามให้จำเลยชดใช้ค่าเสียหายแล้ว จำเลยไม่ยอมชำระขอให้บังคับจำเลยชำระค่าเสียหายจำนวน 2,234,263.01 บาทแก่โจทก์พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปีนับแต่วันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จ จำเลยให้การว่า การฝากส่งไปรษณียภัณฑ์รายพิพาทห้างหุ้นส่วนจำกัด เอส.เค.เจมส์ ไม่ได้แสดงรายการสิ่งของที่บรรจุอยู่ภายในว่าเป็นอะไรบ้าง โดยไปรษณียภัณฑ์ที่ฝากส่งมีการหุ้มห่อมิดชิดเรียบร้อยในสภาพที่ผู้ฝากส่งไม่ประสงค์ให้มีการแก้ห่อ หรือให้เจ้าหน้าที่ของจำเลยมีโอกาสตรวจพบเห็นสิ่งของที่แท้จริงภายในห่อ และไม่ได้ผ่านพิธีการทางศุลกากรเจ้าหน้าที่ของจำเลยจึงรับฝากส่งอย่างไปรษณียภัณฑ์ ทั่ว ๆ ไปโดยคำนึงถึงน้ำหนักของไปรษณียภัณฑ์ ในการคิดค่าธรรมเนียมฝากส่งเท่านั้น และได้ใช้ความระมัดระวังตามระเบียบของจำเลยแล้วขอให้ยกฟ้อง ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระเงินจำนวน 522 บาทแก่โจทก์พร้อมด้วยดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี นับแต่วันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จ โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ข้อเท็จจริงรับฟังได้เป็นยุติตามที่คู่ความไม่ได้โต้เถียงกันในชั้นฎีกาว่า ห้างหุ้นส่วนจำกัดเอส.เค.เจมส์ ได้ฝากส่งไปรษณียภัณฑ์ ลงทะเบียนที่พิพาทไปยังประเทศสหรัฐอเมริกา โดยฝากส่งต่อจำเลย ดังปรากฏตามใบรับฝากเอกสารหมาย จ.5 และได้ประกันภัยไปรษณียภัณฑ์ พิพาทไว้กับโจทก์ในวงเงิน 96,931.15 เหรียญสหรัฐ หรือคิดเป็นเงินไทย 2,234,263.01 บาท ดังปรากฏตามกรมธรรม์ประกันภัยเอกสารหมาย จ.6 ต่อมาไปรษณียภัณฑ์ พิพาทสูญหายไประหว่างที่อยู่ในความดูแลรักษาของลูกจ้างหรือพนักงานของจำเลย โจทก์ได้ชดใช้ค่าเสียหายจำนวน 2,234,263.01 บาท ให้ห้างหุ้นส่วนจำกัด เอส.เค.เจมส์ ไปแล้ว ตามสัญญาประกันภัย มีปัญหาตามฎีกาของโจทก์ที่เห็นสมควรวินิจฉัยในประการแรกว่า จำเลยต้องชดใช้ค่าเสียหายให้โจทก์เพียงใด ที่โจทก์ฎีกาว่า คดีนี้โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยรับผิดฐานละเมิดซึ่งพนักงานหรือลูกจ้างของจำเลยกระทำละเมิดตามทางการที่จ้างเมื่อข้อเท็จจริงรับฟังได้เป็นยุติตามคำวินิจฉัยของศาลชั้นต้นโดยจำเลยมิได้อุทธรณ์ว่า การที่ไปรษณียภัณฑ์ พิพาทของห้างหุ้นส่วนจำกัด เอส.เค.เจมส์ สูญหายไปเกิดจากการกระทำโดยประมาทของพนักงานของจำเลยอันเป็นการละเมิดจำเลยในฐานะนายจ้างจึงต้องร่วมรับผิดในผลแห่งการละเมิดตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 425 ดังนั้นความรับผิดของจำเลยในอันที่จะต้องชดใช้ค่าเสียหาย จึงต้องเป็นไปตามบทบัญญัติของประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ 2 ลักษณะ 5 ว่าด้วยละเมิด กล่าวคือจำเลยต้องรับผิดชดใช้ราคาทับทิมและพลอยสีน้ำเงินเจียระไนซึ่งบรรจุอยู่ในไปรษณียภัณฑ์ พิพาทที่สูญหายจำนวน 2,024,539.31 บาทรวมทั้งค่าเสียหายอันได้แก่ค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ในการส่งอีกร้อยละสิบของราคาอัญมณีทั้งหมด รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 2,234,263.01บาท ซึ่งเป็นค่าเสียหายโดยตรงที่เกิดจากการกระทำละเมิดของพนักงานของจำเลยให้แก่ห้างหุ้นส่วนจำกัด เอส.เค.เจมส์ โจทก์ในฐานะผู้รับประกันภัยได้ชดใช้ค่าเสียหายจำนวนดังกล่าวให้ห้างหุ้นส่วนจำกัด เอส.เค.เจมส์ แล้วย่อมรับช่วงสิทธิมาเรียกร้องเงินจำนวนนี้จากจำเลยได้นั้น เห็นว่าคำวินิจฉัยของศาลชั้นต้นซึ่งโจทก์และจำเลยต่างไม่ได้อุทธรณ์ ที่วินิจฉัยว่าไปรษณียภัณฑ์ พิพาทของห้างหุ้นส่วนจำกัด เอส.เค.เจมส์ สูญหายไปเกิดจากการกระทำโดยประมาทของพนักงานของจำเลยอันเป็นการละเมิดนั้น ปรากฏจากคำวินิจฉัยของศาลชั้นต้นด้วยว่า เหตุแห่งการละเมิดดังกล่าว เกิดจากความบกพร่องในหน้าที่ของพนักงานของจำเลยโดยไม่ปรากฏว่าพนักงานของจำเลยเป็นผู้ลักเอา ไปรษณียภัณฑ์พิพาทไปซึ่งเห็นว่าคำวินิจฉัยของศาลชั้นต้นดังกล่าวแสดงว่า เหตุที่ไปรษณียภัณฑ์พิพาทของห้างหุ้นส่วนจำกัด เอส.เค.เจมส์ สูญหายไป มิได้เกิดจากการกระทำโดยทุจริตของพนักงานของจำเลยได้ความดังนี้ เมื่อพิจารณาประกอบกับประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 609 วรรคแรก ที่บัญญัติให้การขนไปรษณียภัณฑ์ ในหน้าที่กรมไปรษณียโทรเลข อยู่ในบังคับตามกฎหมายและกฎข้อบังคับสำหรับทบวงการนั้น ๆ คือต้องบังคับตามพระราชบัญญัติไปรษณีย์ พ.ศ. 2477 พระราชบัญญัติการสื่อสารแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2519 และไปรษณียนิเทศพ.ศ. 2524 ซึ่งเป็นกฎหมายและกฎข้อบังคับที่ใช้อยู่ในขณะที่มีการฝากส่งไปรษณียภัณฑ์ พิพาทแล้ว เห็นว่าเหตุที่ไปรษณียภัณฑ์พิพาทและห้างหุ้นส่วนจำกัด เอส.เค.เจมส์ สูญหายไปดังคำวินิจฉัยของศาลชั้นต้น มีความหมายว่า ไปรษณียภัณฑ์พิพาทสูญหายไปเพราะความผิดของจำเลยดังที่กำหนดไว้ในไปรษณียนิเทศ พ.ศ. 2524ข้อ 177, 391 จึงเห็นว่าจำเลยต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหายให้โจทก์ผู้รับช่วงสิทธิของห้างหุ้นส่วนจำกัด เอส.เค.เจมส์ ตามอัตราการชดใช้ค่าเสียหายสำหรับไปรษณียภัณฑ์ และพัสดุไปรษณีย์ดังที่กำหนดในไปรษณียนิเทศ พ.ศ. 2524 ข้อ 177, 391 และภาคผนวกไปรษณียนิเทศ พ.ศ. 2524 คือจำนวน 60 แฟรงก์ทอง หรือคิดเป็นเงินโดยเท่ากับ 522 บาท แต่ไม่ต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหายให้โจทก์ตามฎีกาของโจทก์ดังที่กล่าวแล้วข้างต้น คำพิพากษาฎีกาที่ 3883/2529ระหว่าง บริษัทประกันภัยไทยวิวัฒน์ จำกัด โจทก์การสื่อสารแห่งประเทศไทย กับพวก จำเลย ที่ 2195/2520 ระหว่างห้างหุ้นส่วนจำกัด เมโทรมอเตอร์เวอคส์ โจทก์ การรถไฟแห่งประเทศไทยจำกัด จำเลย และที่ 1211/2518 ระหว่าง นายตั้งกวง แซ่ตั้งกับพวก โจทก์ ธนาคารกรุงเทพพาณิชย์การ จำกัด กับพวก จำเลยที่โจทก์อ้างมาในฎีกาของโจทก์ ข้อเท็จจริงไม่ตรงกับคดีนี้ ฎีกาของโจทก์ในปัญหานี้ฟังไม่ขึ้น และคดีไม่จำต้องวินิจฉัย ฎีกาของโจทก์ในปัญหาที่ว่า ห้างหุ้นส่วนจำกัด เอส.เค.เจมส์ จำกัด ได้ฝากส่งทับทิมและพลอยสีน้ำเงินเจียระไน รวมราคา 2,024,539.31 บาท ไปในไปรษณียภัณฑ์พิพาทที่สูญหายดังกล่าวแล้วหรือไม่ เพราะถึงจะวินิจฉัยไป ก็ไม่มีผลทำให้จำนวนเงินค่าเสียหายที่จำเลยต้องรับผิดชดใช้ให้โจทก์ดังที่วินิจฉัยแล้วมีผลเปลี่ยนแปลงไป”
พิพากษายืน

Share