คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1925/2494

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

แม้ใน พ.ร.บ.ภาษีโรงเรือนและที่ดินมาตรา 8 จะได้ให้อำนาจพนักงานเจ้าหน้าที่แก้หรือคำนวณค่ารายปีใหม่ เมื่อมีเหตุอันบ่งให้เห็นว่าค่าเช่านั้นมิใช่จำนวนเงินอันสมควรจะให้เช่าได้ก็ดี ถ้าผู้ให้เช่าได้เรียกเก็บค่าเช่าตามสัญญาที่ให้เช่าและค่าเช่าที่เรียกเก็บก็ไม่น้อยเกินไป หรือมีเหตุที่น่าจะเห็นว่าผู้เช่ากับผู้ให้เช่าสมยอมกันแล้ว ก็ไม่มีเหตุสมควรที่เจ้าพนักงานประเมินจะประเมินค่ารายปีเกินไปกว่าค่าเช่าที่ผู้ให้เช่าได้รับจริง เพราะไม่เป็นธรรมแก่ฝ่ายผู้ให้เช่า ฉะนั้นถ้าประเมินค่ารายปีเกินไปโดยไม่สมควรแล้ว ผู้ให้เช่าย่อมฟ้องเรียกคืนได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องเรียกเงินค่าภาษีโรงเรือนจำนวน พ.ศ.๒๔๙๑,๒๔๙๒ ซึ่งจำเลยประเมินเรียกเก็บเกินไป เป็นเงิน ๖๓๓ บาท ๑๙ สตางค์ ตามรายการที่บรรยายมาในฟ้องเงินภาษีนี้ โจทก์ได้ชำระแก่จำเลยแล้ว
จำเลยให้การว่า เป็นอำนาจของจำเลยที่จะเรียกเก็บได้ตาม พ.ร.บ.ภาษีโรงเรือนและที่ดิน ๒๔๗๕ มาตรา ๘ จำเลยคำนวณค่ารายปีสำหรับห้องแถวของโจทก์ห้องละ ๙๖๐ บาทเป็นการสมควรแล้ว หากโจทก์ต้องให้เช่าห้องละ ๔๘ บาท เพราะถูก พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า ฯลฯ ขัดขวางมิให้ขึ้นค่าเช่าก็ไม่เป็นข้อห้ามไม่ให้จำเลยประเมินเรียกเก็บภาษีตามที่เห็นสมควร
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้จำเลยคืนเงิน ๖๓๓ บาท ๑๙ สตางค์ให้โจทก์
จำเลยฎีกาต่อมา
ศาลฎีกาเห็นว่า แม้ใน พ.ร.บ.ภาษีโรงเรือนและที่ดิน ๒๔๗๕ มาตรา ๘ จะได้ให้อำนาจพนักงานเจ้าหน้าที่แก้หรือคำนวณค่ารายปีใหม่ เมื่อมีเหตุอันบ่งให้เห็นว่า ค่าเช่านั้นมิใช่จำนวนเงินอันสมควรจะให้เช่าได้ก็ดี แต่ในเรื่องนี้ได้ความว่า โจทก์ได้เรียกเก็บค่าเช่าตามสัญญาที่ให้เช่า และค่าเช่าที่เรียกเก็บก็ไม่น้อยเกินไปหรือมีเหตุที่น่าจะเห็นว่าผู้เช่ากับผู้ให้เช่าสมยอมกัน ฉะนั้นจึงไม่มีเหตุสมควรที่จะประเมินค่ารายปีเกินไปกว่าค่าเช่าที่ผู้ให้เช่าได้รับจริง เพราะไม่เป็นธรรมแก่ฝ่ายผู้ให้เช่า
ศาลอุทธรณ์พิพากษาชอบแล้ว จึงพิพากษายืน

Share