คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1876/2494

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การโอนทรัพย์สินของลูกหนี้ในระหว่าง 3 ปีก่อนล้มละลายนั้น พ.ร.บ.ล้มละลายมาตรา 114 บัญญัติให้เป็นหน้าที่ของผู้รับโอนจะแสดงให้ศาลพอใจว่าการโอนนั้นได้กระทำโดยสุจริตและมีค่าตอบแทน ส่วนกรณีที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ร้องขอให้ศาลเพิกถอนการฉ้อฉลตาม พ.ร.บ.ล้มละลายมาตรา 113 นั้นหาได้มีบทบัญญัติเรื่องหน้าที่นำสืบเป็นคุณแก่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ดังเช่นการโอนทรัพย์ดังที่บัญญัติไว้ในมาตรา 114 ดังกล่าวไม่ จึงเป็นหน้าที่ของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์จะต้องนำสืบให้ได้ความว่ามีการฉ้อฉลกัน
การจำนองทรัพย์สิน+ใช่เป็นการโอนทรัพย์สินตามพ.ร.บ.ล้มละลายมาตรา 114 จึงจะนำมาตรา 114 มาใช้บังคับไม่ได้

ย่อยาว

คดีนี้ เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ยื่นคำขอต่อศาลว่าจำเลยถูกศาลพิพากษาให้ล้มละลาย ก่อนล้มละลายจำเลยมีตกแถว ๑๑ ห้องปลูกอยู่ในที่ดินของนางแช่ม เหล่าสุนทร จำเลยได้จำนองตึกแถวนี้แก่นางจำเนียรสุข เหล่าสุนทร จำเลยได้จำนองตึกแถวนี้แก่นางจำเนียรสุข เหล่าสุนทร โดยไม่สุจริต เป็นการโอนภายในเวลา ๓ ปี ศาลมีอำนาจเพิกถอนได้ หรือมิฉะนั้นก็เป็นการฉ้อฉล จึงขอให้ศาลเพิกถอนการจำนองรายนี้โดยอาศัย พ.ร.บ.ล้มละลายมาตรา ๑๑๔ และ ๑๑๓
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้เพิกถอนการจำนองรายนี้
นางจำเนียรสุข อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า การจำนองเป็นแต่เพียงเอาทรัพย์สินตราไว้ เพื่อเป็นการประกันการชำระหนี้ กรรมสิทธิในทรัพย์สินที่จำนองยังคงเป็นของผู้จำนองอยู่ การจำนองจึงหาใช่เป็นการโอนทรัพย์สินตามมาตรา ๑๑๔ แห่ง พ.ร.บ.ล้มละลาย ส่วนกรณีที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์จะร้องขอให้เพิกถอนการฉ้อฉลตามมาตรา ๑๑๓ นั้น ก็หาได้มีบทบัญญัติอันเกี่ยวกับหน้าที่นำสืบเป็นคุณแก่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ดั่งมาตรา ๑๑๔ ไม่ เมื่อเป็นเช่นนี้ก็เป็นหน้าที่ของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ ผู้ขอให้ศาลเพิกถอนการฉ้อฉลที่จะต้องนำสืบว่าการกระทำรายนี้ได้กระทำโดยนางจำเนียรได้รู้เท่าถึงความจริงว่า จะเป็นทางให้เจ้าหนี้เสียเปรียบตาม ป.ม.แพ่งฯมาตรา ๒๓๗ แต่ในข้อนี้เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์นำสืบมาได้ไม่
จึงพิพากษายืน ให้ยกฎีกาเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์เสีย

Share