คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1261/2479

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ฟ้องว่าจำเลยเบิกความเท็จ แต่มิได้กล่าวว่าจำเลยเบิกความเท็จในสำนวนไหน เพราะมีคดีที่จำเลยได้เคยเบิกความเกี่ยวข้องกัน 2 สำนวนและทั้งมิได้กล่าวว่าจำเลยเบิกความเท็จในข้อไร ข้อไหนเป็นเท็จข้อไหนเป็นจริง ข้อไหนเป็นสาระสำคัญ ดังนี้เป็นฟ้องเคลือบคลุม ศาลต้องยกฟ้อง ถ้าฟ้องของโจทก์เคลือบคลุมโจทก์ต้องยื่นคำร้องขอแก้ฟ้อง โจทก์จะแถลงอธิบายฟ้องลับหลังจำเลยมิได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าจำเลยเบิกความเท็จเมื่อวันที่ ๔ และ ๙ มีนาคม พ.ศ.๒๔๗๗ อันเป็นสาระสำคัญในคดีอาญา ขอให้ลงโทษ ฟ้องของโจทก์ไม่ได้กล่าวว่าจำเลยเบิกความเท็จในสำนวนไหน (เพราะมีคดีเกี่ยวข้องกันหลายสำนวน) ศาลจึงสอบถามโจทก์ แถลงว่าจำเลยเบิกความเท็จในคดีอาญาเลขดำที่ ๕๙๗/๒๔๗๗ ซึ่งยังอยู่ในระหว่างพิจารณา
ศาลฎีกาตัดสินว่าฟ้องของโจทก์เคลือบคลุมทำให้จำเลยหลงข้อต่อสู้ เพราะไม่ได้กล่าวว่าโดยชัดเจนว่า จำเลยได้เบิกความเท็จในสำนวนไหนข้อไร ทั้งไม่ได้กล่าวว่าข้อไหนจริงข้อไหนเท็จหรือข้อไหนเป็นสาระสำคัญในคดี เมื่อโจทก์กล่าวหาจำเลยเคลือบคลุมดังนี้เป็นหน้าที่ของโจทก์ยื่นคำร้องขอแก้ฟ้อง ตามประมวลวิธีพิจารณาอาญามาตรา ๑๖๓ แต่โจทก์มิได้ปฏิบัติตาม เป็นแต่แถลงอธิบายลับหลังจำเลยจึงพิพากษาให้ยกฟ้อง โจทก์ตามศาลชั้นต้น

Share