คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1923/2519

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โรงเก็บของของจำเลยอยู่ในบริเวณสวนของจำเลย มีรั้วต้นพู่ระหงปลูกเป็นแนวเขต จำเลยเก็บของอันมีค่าเช่นเครื่องยนต์สูบน้ำและอุปกรณ์อื่นๆไว้ ทรัพย์สินที่จำเลยเก็บไว้ในโรงเก็บของเคยถูกคนร้ายลักไปในตำบลที่เกิดเหตุมีคนร้ายชุกชุม จำเลยเอาเส้นลวดขึงที่โรงเก็บของและปล่อยกระแสไฟฟ้าจากบ้านไว้เพื่อป้องกันคนร้ายผู้ตายกับพวกอีก 3 คนบุกรุกเข้าไปที่โรงเก็บของในเวลาวิกาล โดยเจตนาจะลักทรัพย์ ในมือผู้ตายมีเหล็กไขควง 1 อัน แต่ผู้ตายไปถูกเส้นลวดที่ปล่อยกระแสไฟฟ้าไว้ถึงแก่ความตายเสียก่อน มิฉะนั้นผู้ตายกับพวกย่อมลักทรัพย์ของจำเลยไปได้ นับได้ว่าภยันตรายที่จะเกิดแก่ทรัพย์สินของจำเลยใกล้จะถึงแล้ว ถ้าจำเลยไปพบเห็นเข้า จำเลยย่อมมีสิทธิทำร้ายผู้ตายกับพวกเพื่อป้องกันทรัพย์สินของจำเลยได้ ดังนั้น การกระทำของจำเลยจึงเป็นการป้องกันสิทธิของตนโดยชอบด้วยกฎหมาย และพอสมควรแก่เหตุ จำเลยจึงไม่มีความผิด

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า เมื่อระหว่างวันที่ 2 ถึงวันที่ 3 มีนาคม 2518 เวลากลางคืนติดต่อกัน จำเลยบังอาจต่อกระแสไฟฟ้าแรงสูงผ่านเส้นลวดซึ่งขึงรอบโรงเก็บของของจำเลย เป็นเส้นลวดคู่กันให้กระแสไฟฟ้าแรงสูงเดินผ่าน เพื่อทำร้ายบุคคลใดบุคคลหนึ่งที่ไปปะทะกับเส้นลวด ทำให้กระแสไฟฟ้าแล่นผ่านเข้าไปในร่างกายของบุคคลนั้น จนเกิดอันตรายแก่กาย โดยจำเลยไม่มีเจตนาฆ่า ตามวันเวลาดังกล่าวนายมาโนชเดินไปปะทะเส้นลวดที่จำเลยปล่อยกระแสไฟฟ้าไว้ทำให้กระแสไฟฟ้าเข้าไปในร่างกายนายมาโนช เป็นเหตุให้นายมาโนชถึงแก่ความตายโดยจำเลยไม่มีเจตนาฆ่าให้ตาย ขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 290และขอริบลวดของกลาง

จำเลยให้การว่า นายมาโนชถึงแก่ความตายโดยถูกกระแสไฟฟ้าที่จำเลยต่อไว้กับเส้นลวดขึงรอบโรงเก็บของของจำเลยจริง ผู้ตายกับพวกอีก 3 คนเข้าไปสวนเพื่อจะลักทรัพย์สินของจำเลยในโรงเก็บของ แล้วถูกกระแสไฟฟ้าถึงแก่ความตายการกระทำของจำเลยเป็นการป้องกันทรัพย์สินของจำเลยพอสมควรแก่เหตุ

ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ววินิจฉัยว่า ผู้ตายจะเข้าไปลักทรัพย์ในโรงเก็บของของจำเลย แล้วไปถูกสายไฟฟ้าที่จำเลยขึงไว้เพื่อป้องกันทรัพย์สินของจำเลย เป็นความผิดของผู้ตายเอง จำเลยไม่มีความผิด พิพากษายกฟ้องโจทก์

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

โจทก์ฎีกาว่า การกระทำของจำเลยไม่เป็นการป้องกันโดยชอบด้วยกฎหมาย

วินิจฉัยว่า ในกรณีเช่นนี้ ศาลจะต้องพิจารณาเสมือนว่า ถ้าจำเลยอยู่ในที่เกิดเหตุในขณะเกิดเหตุ จำเลยจะมีสิทธิกระทำร้ายเพื่อป้องกันสิทธิของตนหรือไม่ ศาลฎีกาเห็นว่า โรงเก็บของอยู่ในบริเวณสวนของจำเลย มีรั้วต้นพู่ระหงปลูกเป็นแนวเขต จำเลยเก็บของอันมีค่าเช่นเครื่องยนต์สูบน้ำและอุปกรณ์อื่น ๆไว้ทรัพย์สินที่จำเลยเก็บไว้ในโรงเก็บของเคยถูกคนร้ายลักไป ในตำบลที่เกิดเหตุมีคนร้ายชุกชุม จำเลยจึงเอาเส้นลวดขึงที่โรงเก็บของและปล่อยกระแสไฟฟ้าจากบ้านไว้เพื่อป้องกันคนร้าย ผู้ตายกับพวกอีก 3 คนบุกรุกเข้าไปที่โรงเก็บของในเวลาวิกาลโดยเจตนาจะลักทรัพย์ ในมือผู้ตายมีเหล็กไขควง 1 อัน แต่ผู้ตายไปถูกเส้นลวดที่ปล่อยกระแสไฟฟ้าไว้ถึงแก่ความตายเสียก่อน มิฉะนั้นผู้ตายกับพวกย่อมลักทรัพย์ของจำเลยไปได้ นับได้ว่าภยันตรายที่จะเกิดแก่ทรัพย์สินของจำเลยใกล้จะถึงแล้ว ถ้าจำเลยไปพบเห็นเข้า จำเลยย่อมมีสิทธิทำร้ายผู้ตายกับพวกเพื่อป้องกันทรัพย์สินของจำเลยได้ ดังนั้นการกระทำของจำเลยจึงเป็นการป้องกันสิทธิของตนโดยชอบด้วยกฎหมาย และพอสมควรแก่เหตุ จำเลยไม่มีความผิด คำพิพากษาฎีกาที่ 32/2510 ที่โจทก์อ้างมาข้อเท็จจริงไม่ตรงกับคดีนี้

พิพากษายืน

Share