แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
เช็คที่จำเลยออกให้ ส. ไม่ใช่เช็คขีดคร่อม กรณีต้องบังคับตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 997 วรรค 3 ซึ่งบัญญัติยกเว้นความรับผิดของธนาคารไว้ เมื่อธนาคารได้จ่ายเงินตามเช็คไปโดยสุจริตและปราศจากความประมาทเลินเล่อและแม้เงินในบัญชีของจำเลยจะมีไม่พอจ่ายก็ตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 991 ก็หาได้บังคับโดยเฉียบขาดมิได้ให้ธนาคารจ่ายเงินเกินบัญชีของผู้เคยค้าไม่ ดังนั้น จำเลยต้องรับผิดต่อธนาคารโจทก์
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยเป็นลูกค้าของธนาคารโจทก์มีบัญชีเงินฝากประเภทกระแสรายวัน ต่อมาจำเลยได้ตกลงกับธนาคารโจทก์ขอเบิกเงินเกินบัญชี โดยวิธีบัญชีเดินสะพัดเป็นการชั่วคราว ยอมเสียดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ ๑๔ ต่อปีของจำนวนเงินที่เบิกเกินบัญชี โดยคิดทบต้นเป็นรายเดือน จำเลยใช้เช็คเบิกเงินเกินบัญชีรวม ๔ ครั้ง เป็นเงิน ๓๗,๓๔๗ บาท เมื่อหักทอนบัญชีแล้ว จำเลยเป็นหนี้ธนาคารโจทก์อยู่ ๒๙,๗๘๘.๔๔ บาท คิดรวมดอกเบี้ยถึงวันฟ้องเป็นเงิน ๘๑,๔๕๐.๔๔ บาท ขอให้จำเลยชำระเงินจำนวนดังกล่าวพร้อมด้วยดอกเบี้ยร้อยละ ๑๔ ต่อปี นับแต่วันฟ้องถึงวันชำระเสร็จให้โจทก์
จำเลยขาดนัดยื่นคำให้การ
ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า จำเลยไม่ได้ขอเบิกเงินเกินบัญชีโดยวิธีบัญชีเดินสะพัดโจทก์จ่ายเงินตามเช็คเมื่อเงินในบัญชีของจำเลยไม่พอจ่าย ซึ่งธนาคารโจทก์มีสิทธิไม่จ่าย และจ่ายโดยไม่สมประโยชน์ของจำเลยโดยจำเลยไม่รับรู้ด้วย จะเรียกร้องให้จำเลยรับผิดไม่ได้ พิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า พยานหลักฐานของโจทก์ฟังไม่ได้ว่าธนาคารโจทก์กับจำเลยตกลงเปิดบัญชีเดินสะพัดต่อกัน การที่ธนาคารโจทก์จ่ายเงินเกินบัญชีไปอาจเพื่อช่วยลูกค้าของตน แม้เช็คที่จำเลยออกให้นายสมบูรณ์จะไม่มีหนี้ต่อกันตามที่จำเลยนำสืบก็ต้องบังคับตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๙๑๖ จำเลยต้องรับผิดตามเช็คที่จำเลยเป็นผู้สั่งจ่ายและเบิกเกินบัญชีไป พิพากษากลับให้จำเลยชำระเงิน ๒๙,๗๘๘.๔๔ บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยร้อยละ ๗ ครึ่งต่อปีจากจำนวนดังกล่าวนับแต่วันที่ ๑๙ มีนาคม ๒๕๑๗ เป็นต้นไป ซึ่งเป็นวันที่โจทก์ทวงถามกำหนดให้ชำระหนี้จนกว่าจะชำระเสร็จให้โจทก์
จำเลยฎีกา
วินิจฉัยว่า จำเลยเป็นผู้เคยค้ากับธนาคารได้ออกเช็คสั่งจ่ายเงิน ๓๐,๐๐๐ บาท ให้นายสมบูรณ์และธนาคารได้จ่ายเงินตามเช็คนั้นให้แก่นายสมบูรณ์ไปแล้ว จำเลยจึงต้องตกเป็นลูกหนี้ธนาคารตามจำนวนเงินที่ธนาคารได้จ่ายไปตามเช็คนั้น แม้เงินในบัญชีจะมีไม่พอจ่าย ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๙๙๑ ก็หาได้บังคับโดยเฉียบขาดมิให้ธนาคาจ่ายเงินเกินบัญชีของผู้เคยค้าไม่ และเช็คที่จำเลยออกให้ นายสมบูรณ์ ไม่ใช่เช็คขีดคร่อม กรณีต้องบังคับตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๙๙๗ วรรค ๓ ซึ่งบัญญัติยกเว้นความรับผิดของธนาคารไว้ เมื่อธนาคารได้จ่ายเงินตามเช็คไปโดยสุจริตและปราศจากความประมาทเลินเล่อธนาคารโจทก์จึงไม่ต้องรับผิดในจำนวนเงินที่จ่ายไปตามเช็คนั้น ศาลฎีกาเห็นด้วยในผลของคำพิพากษาศาลอุทธรณ์
พิพากษายืน