แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
พินัยกรรมข้อ 1 ระบุว่า เจ้ามรดกยกอสังหาริมทรัพย์สังหาริมทรัพย์ เงินสดทรัพย์สินอื่น ๆ รวมทั้งสิทธิทั้งหลายให้แก่ผู้มีชื่อถือหุ้นในบริษัท ส. ผู้ร้องไม่มีชื่อเป็นผู้ถือหุ้นในบริษัท ส. ถึงแม้จะเป็นทายาทโดยธรรมของเจ้ามรดก ก็ต้องถือว่าถูกตัดมิให้รับมรดกโดยพินัยกรรมดังกล่าว และตามพินัยกรรมข้อ 4 ที่ให้นำเงินปันผลไปทำบุญทำทานและเกื้อกูลบุตรหลานที่ไม่มีชื่อถือหุ้นในบริษัท ส. ก็มิใช่เป็นเรื่องกำหนดให้บุตรหลานที่ไม่มีชื่อถือหุ้นมีสิทธิได้รับมรดกแต่ประการใด จึงถือไม่ได้ว่าผู้ร้องมีส่วนได้เสียในกองมรดก ดังนั้น ผู้ร้องไม่มีสิทธิร้องขอให้ถอนผู้จัดการมรดก
ย่อยาว
ผู้ร้องยื่นคำร้องว่า ผู้ร้องเป็นบุตรโดยชอบกฎหมายและเป็นผู้มีส่วนได้เสียในการรับมรดกของ ท. ผู้คัดค้านเป็นผู้จัดการมรดก ท. ผู้คัดค้านไม่เคยทำบัญชีทรัพย์มรดกและมีเจตนาไม่สุจริตทำสัญญาขายทรัพย์มรดกโดยปกปิดราคาขายที่แท้จริง ทำให้เกิดความเสียหายแก่ผู้ร้อง ขอให้มีคำสั่งถอนผู้คัดค้านจากการเป็นผู้จัดการมรดกและตั้งผู้ร้องเป็นแทน
ผู้คัดค้านยื่นคำคัดค้านว่า ท. ทำพินัยกรรมยกทรัพย์สินทั้งหมดให้แก่ผู้มีชื่อถือหุ้นในบริษัท ส. ผู้ร้องไม่ใช่ผู้ถือหุ้นในบริษัท ส. จึงมิใช่เป็นผู้มีส่วนได้เสียผู้คัดค้านได้จัดการมรดกของ ท. โดยสุจริต ไม่ได้ทำให้กองมรดกเสียหาย ขอให้ยกคำร้อง
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ถอนผู้คัดค้านออกจากการเป็นผู้จัดการมรดกของ ท.และตั้งผู้ร้องเป็นแทน
ผู้คัดค้านอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้ยกคำร้องของผู้ร้อง
ผู้ร้องฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ตามพินัยกรรมข้อ 1 ระบุว่า เจ้ามรดกยกอสังหาริมทรัพย์สังหาริมทรัพย์ เงินสด ทรัพย์สินอื่น ๆ รวมทั้งสิทธิทั้งหลายให้แก่ผู้มีชื่อถือหุ้นในบริษัท ส. ผู้ร้องไม่มีชื่อเป็นผู้ถือหุ้นในบริษัท ส. ถึงแม้จะเป็นทายาทโดยธรรมของเจ้ามรดกก็ต้องถือว่าถูกตัดมิให้รับมรดกโดยพินัยกรรมดังกล่าว ผู้ร้องไม่มีสิทธิรับมรดกรายนี้และตามพินัยกรรม ข้อ 4 ที่ให้นำเงินปันผลไปทำบุญทำทานและเกื้อกูลบุตรหลานที่ไม่มีชื่อถือหุ้นในบริษัท ส. ก็มิใช่เป็นเรื่องกำหนดให้บุตรหลานที่ไม่มีชื่อถือหุ้นมีสิทธิได้รับมรดกแต่ประการใดจึงถือไม่ได้ว่าผู้ร้องมีส่วนได้เสียในกองมรดก ดังนั้นผู้ร้องไม่มีสิทธิร้องขอถอดถอนผู้จัดการมรดก
พิพากษายืน