แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
เจ้าของร้านมีหน้าที่ต้องนำสืบถึงสิ่งอากรชั้นใน ที่ตั้งไว้ขายว่าได้ซื้อไว้จากผู้ที่มีอำนาจจะซื้อขายได้ มิฉะนั้นต้องมีความผิด
ย่อยาว
ได้ความว่า จำเลยที่ 1 เป็นเจ้าของร้านค้า จำเลยที่ 2 เป็นผู้อยู่ในร้านค้าของจำเลยที่ 1 มีสุราแม่โขง 10 ขวดตั้งไว้ขายที่ร้านค้านั้น โจทก์ฟ้องว่า จำเลยสมคบกันตั้งสุราดังกล่าวไว้ขายโดยสมคบกันซื้อมาจากผู้ที่ไม่มีอำนาจจะซื้อขายสุรานั้น
จำเลยทั้ง 2 ให้การปฏิเสธ จำเลยที่ 1 ต่อสู้ว่ามอบให้จำเลยที่ 2 ทำการค้าแทน จำเลยที่ 2 ต่อสู้ว่า เป็นสุรารัฐบาลอยู่ในความครอบครองไม่เกินอำนาจของกฎหมาย
ศาลชั้นต้นเห็นว่า หลักฐานของโจทก์ฟังเอาแน่ไม่ได้ว่าจำเลยซื้อมาจากที่ไหน พิพากษายกฟ้อง
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า จำเลยนำสืบแสดงไม่ได้ว่าซื้อจากผู้ที่ได้รับอนุญาตให้ขายได้ พระราชบัญญัติภาษีชั้นใน มาตรา 35 ให้ลงโทษเฉพาะผู้เป็นเจ้าของโรงร้าน พิพากษาแก้ ปรับจำเลยที่ 1, 80 บาท ริบของกลาง ส่วนจำเลยที่ 2 คงยกฟ้อง
จำเลยที่ 1 ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า พระราชบัญญัติภาษีชั้นใน มาตรา 35 บังคับให้เจ้าของร้านผู้ได้รับอนุญาตนำสืบถึงสิ่งของอากรชั้นใน ซึ่งตั้งไว้ขายว่าได้ซื้อมาจากผู้ที่มีอำนาจจะซื้อขายของเช่นนั้น แต่จำเลยที่ 1 นำสืบฟังไม่ได้ดังกล่าวเพียงแต่นำสืบว่า ขณะจับกุมไม่ได้อยู่ในร้านนั้น จำเลยที่ 1 ไม่พ้นผิด
พิพากษายืน