แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ในสัญญากู้ที่โจทก์อาศัยเป็นหลักฐานฟ้องให้จำเลยชำระหนี้ต้นเงินกู้นั้นได้มีข้อตกลงให้จำเลยผ่อนส่งได้เป็นรายเดือน ๆ ละ 500 บาท และต่อมาจำเลยยังได้นำเอาหมูตีใช้หนี้ไปแล้วคิดเป็นเงิน 3,500 บาท คงค้างชำระอีก9,000 บาท ดังนี้ การฟ้องเรียกร้องให้จำเลยชำระต้นเงินตามสัญญากู้ตามฟ้องจึงถือได้ว่า เรียกเอาจำนวนเงินอันพึงส่งนอกจากดอกเบี้ยเพื่อผ่อนทุนคืนเป็นงวด ๆ อันมีกำหนดอายุความห้าปี ตามนัยที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 166
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นทายาทของนายกู้ผู้ตาย จำเลยได้กู้ยืมเงินจากนายกู้ตามสัญญากู้ ตกลงผ่อนชำระเป็นรายเดือน ๆ ละ 500 บาท จำเลยไม่เคยผ่อนชำระเงินเลย ขอให้บังคับจำเลยชำระเงิน 12,500 บาทแก่โจทก์พร้อมดอกเบี้ย
จำเลยให้การว่า จำเลยไม่เคยกู้เงินจากนายกู้ สัญญากู้ไม่ถูกต้อง จำเลยเป็นหนี้ค่าหมูนายกู้เป็นเงิน 21,500 บาท นายกู้ให้จำเลยทำหนังสือรับรองหนี้จำนวนดังกล่าวไว้โดยให้จำเลยผ่อนชำระเป็นรายเดือน ต่อมาจำเลยได้เอาหมูชำระให้แก่นายกู้จนครบแล้วไม่มีติดค้างต่อกัน นายกู้ไม่คืนสัญญากู้ คดีขาดอายุความ
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระเงิน 9,000 บาทพร้อมดอกเบี้ยแก่โจทก์
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ปัญหาว่าหนี้ต้นเงินที่จำเลยจะต้องชำระให้แก่โจทก์ตามที่โจทก์ฟ้องเป็นจำนวนเงินดังกล่าวนั้นขาดอายุความตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 166 แล้วหรือไม่ พิเคราะห์แล้วตามบทบัญญัติของกฎหมายที่จำเลยยกขึ้นเป็นประเด็นต่อสู้ไว้ดังกล่าวบัญญัติว่า “ในการเรียกเอาดอกเบี้ยค้างส่งก็ดี เรียกเอาจำนวนเงินอันพึงส่งนอกจากดอกเบี้ย เพื่อผ่อนทุนคืนเป็นงวด ๆ นั้น ก็ดี ฯลฯ สิทธิเรียกร้องเหล่านี้ท่านให้มีกำหนดอายุความห้าปี” เมื่อข้อเท็จจริงตามที่ได้ความตามฟ้องโจทก์เองว่าในสัญญากู้ที่โจทก์อาศัยเป็นหลักฐานฟ้องให้จำเลยชำระหนี้ต้นเงินกู้นั้นได้มีข้อตกลงให้จำเลยผ่อนส่งได้เป็นรายเดือน ๆ ละ 500 บาท และต่อมาจำเลยยังได้นำเอาหมูตีใช้หนี้ไปแล้วคิดเป็นเงิน 3,500 บาท จำเลยยังคงค้างชำระอีก9,000 บาท ตามที่ศาลชั้นต้นวินิจฉัยไว้เป็นยุติแล้ว ดังนี้ การฟ้องเรียกร้องให้จำเลยชำระต้นเงินตามสัญญากู้ตามฟ้องจึงถือได้ว่า เรียกเอาจำนวนเงินอันพึงส่งนอกจากดอกเบี้ย เพื่อผ่อนต้นทุนคืนเป็นงวด ๆ อันมีกำหนดอายุความไว้ห้าปีตามนัยที่บัญญัติไว้ในบทกฎหมายดังกล่าว คดีนี้สัญญากู้ลงวันที่ 1 มีนาคม2510 จำเลยนำหมูตีใช้หนี้โจทก์ในเดือนที่ 19 นับแต่วันทำสัญญา (ประมาณวันที่ 1 ตุลาคม 2511) โจทก์นำคดีมาฟ้องจำเลยเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2520จึงเป็นเวลาเกินกว่าห้าปี ฟ้องโจทก์ขาดอายุความแล้ว ตามนัยคำพิพากษาฎีกาที่ 581/2494 ระหว่างนายเจริญ กิจนิชี กับพวก โจทก์ หลวงอักษรสุทธิ์ จำเลยคดีไม่จำเป็นต้องวินิจฉัยในประเด็นอื่นตามฎีกาจำเลยอีกต่อไป ที่ศาลล่างทั้งสองพิพากษาให้จำเลยชำระเงินให้แก่โจทก์ 9,000 บาท ศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วย
พิพากษากลับให้ยกฟ้องโจทก์ ค่าฤชาธรรมเนียมทั้งสามศาลให้โจทก์ใช้แทนจำเลยโดยกำหนดค่าทนายความรวม 2,000 บาท