คำสั่งคำร้องที่ 1923/2532

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า โจทก์ฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า คดีนี้โจทก์ฎีกาดุลพินิจของศาลอุทธรณ์ที่ให้รอการลงโทษจำคุกจำเลย ซึ่งศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุกจำเลยไม่เกิน 1 ปี ฎีกาของโจทก์จึงเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ซึ่งต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 219 จึงไม่รับโจทก์เห็นว่า ฎีกาของโจทก์เป็นฎีกาในปัญหาข้อกฎหมายว่าศาลอุทธรณ์วินิจฉัยคดีโดยฟังข้อเท็จจริงแตกต่างไปจากข้อเท็จจริงในสำนวน ส่วนการที่โจทก์ขอให้ศาลฎีกาไม่รอการลงโทษจำเลยนั้น แม้จะเป็นฎีกาเกี่ยวกับดุลพินิจก็ตาม แต่ก็สืบเนื่องมาจากฎีกาในข้อกฎหมายดังกล่าวข้างต้น โปรดมีคำสั่งให้รับฎีกาของโจทก์ไว้พิจารณาพิพากษาต่อไป
หมายเหตุ จำเลยได้รับสำเนาคำร้องแล้ว (อันดับ 23 แผ่นที่ 3)
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 297 ให้จำคุก 2 ปี จำเลยให้การรับสารภาพ ลดโทษกึ่งหนึ่ง คงจำคุก 1 ปี
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้รอการลงโทษจำเลยไว้มีกำหนด 2 ปี นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นโจทก์ฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับฎีกาดังกล่าว (อันดับ 20)
โจทก์จึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 22)

คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว ฎีกาของโจทก์มีใจความว่าสมควรลงโทษจำคุกจำเลยโดยไม่รอการลงโทษ เป็นการโต้เถียงดุลพินิจของศาลอุทธรณ์ว่าสมควรเพียงไร จึงเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงที่ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับฎีกาของโจทก์จึงชอบแล้ว ให้ยกคำร้อง

Share