แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ
ย่อสั้น
ขณะกระทำความผิดจำเลยมีอายุ 18 ปีเศษ และยังเป็นนักศึกษาไม่ปรากฏว่าจำเลยเคยกระทำความผิดมาก่อน จึงมีเหตุอันควรปราณีรอการลงโทษเพื่อให้โอกาสจำเลยกลับตัว เป็นพลเมืองดี ต่อไป.
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 295, 83
จำเลยให้การรับสารภาพ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 295, 83 ไม่ปรากฏว่าจำเลยได้รับโทษจำคุกมาก่อน จำเลยมีอายุไม่มากนักและยังเป็นนักศึกษา จึงเห็นควรลงโทษสถานเบาปรับ 4,000 บาท จำเลยให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณามีเหตุบรรเทาโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 ลดโทษให้กึ่งหนึ่งคงปรับ 2,000 บาท ไม่ชำระค่าปรับให้จัดการตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 29, 30
โจทก์อุทธรณ์ขอให้ลงโทษจำคุกจำเลย
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำคุกจำเลย 1 ปี แต่ไม่ลงโทษปรับ จำเลยให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา ลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุก 6 เดือนนอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลยฎีกาว่า ฟ้องโจทก์เคลือบคลุมและขอให้ลงโทษตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นหรือรอการลงโทษ
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า ฎีกาจำเลยประการแรกเป็นปัญหาข้อกฎหมายที่ไม่เป็นสาระแก่คดีอันควรได้รับการวินิจฉัย ส่วนฎีกาประการหลังเป็นปัญหาข้อเท็จจริงต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 219 จึงไม่รับฎีกาจำเลยทั้งหมด จำเลยอุทธรณ์คำสั่งไม่รับฎีกาศาลฎีกามีคำสั่งให้รับฎีกาจำเลยในประการหลัง
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “มีปัญหาต้องวินิจฉัยในชั้นนี้ว่า มีเหตุสมควรลงโทษจำเลยตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นหรือรอการลงโทษให้จำเลยหรือไม่ เห็นว่า โจทก์บรรยายฟ้องเพียงว่า จำเลยกับพวกอีกสี่คนทำร้ายร่างกายผู้เสียหายทั้งสอง โดยร่วมกันใช้กำลังประทุษร้ายและร่วมกันใช้มีดยาวประมาณ 2 คืบ เป็นอาวุธฟันผู้เสียหายทั้งสองโจทก์มิได้บรรยายให้เห็นว่าอาวุธมีดที่ใช้ในการกระทำความผิดมีลักษณะอย่างไร ทั้งไม่ปรากฏว่าจำเลยเป็นผู้ลงมือกระทำการใช้มีดดังกล่าวฟันผู้เสียหายทั้งสองหรือพวกของจำเลยเป็นผู้กระทำ ประกอบกับบาดแผลที่ผู้เสียหายทั้งสองได้รับตามผลการตรวจชันสูตรบาดแผลของแพทย์ท้ายฟ้องคงใช้เวลารักษาเพียง 14 วัน และ 10 วัน ตามลำดับเท่านั้น เมื่อข้อเท็จจริงได้ความว่า ขณะกระทำความผิดจำเลยมีอายุ 18 ปีเศษและยังเป็นนักศึกษา ไม่ปรากฏว่าจำเลยเคยกระทำความผิดมาก่อน จึงมีเหตุอันควรปรานีเพื่อให้โอกาสจำเลยกลับตัวเป็นพลเมืองดีต่อไป ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาลงโทษจำคุกโดยไม่รอการลงโทษให้จำเลยนั้น ศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วย ส่วนที่ศาลชั้นต้นลงโทษปรับจำเลยสถานเดียวก็เป็นการลงโทษที่เบาเกินไป ศาลฎีกาเห็นสมควรกำหนดโทษเสียใหม่ให้เหมาะสมตามพฤติการณ์แห่งคดี…”
พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ลงโทษจำคุกจำเลย 6 เดือน ปรับ 4,000 บาทจำเลยให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 3 เดือนปรับ 2,000 บาท โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 1 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56 จำเลยไม่ชำระค่าปรับให้จัดการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 29, 30 นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์.