คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 292/2515

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยหลายข้อหา กับขอให้นำโทษที่รอการลงโทษไว้ในคดีก่อนมาบวกเข้ากับโทษในคดีนี้ด้วยจำเลยรับสารภาพ เฉพาะข้อเคยต้องโทษนั้น จำเลยรับว่าเคยต้องโทษและพ้นโทษตามฟ้องจริง ที่จำเลยรับว่าเคยต้องโทษและพ้นโทษตามฟ้องจริงนั้น หมายความว่า จำเลยเคยต้องคำพิพากษาให้ลงโทษและรอไว้ตามฟ้องนั่นเอง ถือได้ว่าจำเลยรับในข้อเท็จจริงที่โจทก์บรรยายฟ้องแล้ว ศาลจึงบวกโทษของจำเลยที่รอไว้เข้ากับโทษในคดีนี้ได้

ย่อยาว

คดีนี้ โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานชิงทรัพย์ มีอาวุธปืนฯไม่รับอนุญาตพกอาวุธปืนดังกล่าวไปในทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุสมควรและพยายามฆ่าผู้อื่น ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288, 339, 371,58, 80, 90, 91 พระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ พ.ศ. 2490 มาตรา 7, 72พระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ พ.ศ. 2510 มาตรา 3 กับขอให้บวกโทษจำเลยที่ศาลรอไว้ในคดีอาญาหมายเลขแดงของศาลแขวงธนบุรีที่ 1881/2513เข้ากับโทษในคดีนี้ด้วย

จำเลยรับสารภาพข้อหาฐานชิงทรัพย์ ฐานมีอาวุธปืนฯ แต่ปฏิเสธข้อหาฐานพยายามฆ่าผู้อื่น จำเลยรับต่อไปด้วยว่า เคยต้องโทษและพ้นโทษตามฟ้องจริง

ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วฟังว่าจำเลยได้กระทำความผิดตามฟ้องสำหรับข้อหาฐานชิงทรัพย์และฐานมีและพกอาวุธปืนฯ ไปในทางสาธารณะลงโทษจำคุกจำเลย 1 ปี 8 เดือน กับให้บวกโทษในคดีแดงที่ 1881/2513ที่รอการลงโทษไว้เข้าในคดีนี้ด้วย

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนว่าจำเลยได้กระทำความผิดตามที่ศาลชั้นต้นฟังมา ส่วนข้อขอให้นำโทษที่รอการลงโทษไว้มาบวกเข้ากับโทษในคดีนี้นั้น ศาลอุทธรณ์เห็นว่า จำเลยรับว่าเคยต้องโทษและพ้นโทษตามฟ้องจริง เป็นคนละเรื่องกับที่โจทก์กล่าวในฟ้องว่าจำเลยเคยถูกศาลพิพากษาให้ลงโทษจำคุก แต่ให้รอการลงโทษไว้ จึงฟังไม่ได้ว่าจำเลยให้การรับตามที่โจทก์กล่าวในฟ้องและมีคำขอ จึงพิพากษาแก้ในส่วนนี้โดยไม่บวกโทษจำคุกที่รอไว้ในคดีก่อนเข้ากับโทษในคดีนี้

โจทก์ฎีกาขอให้เอาโทษที่รอการลงโทษจำเลยไว้มาบวกกับโทษในคดีนี้

ศาลฎีกาเห็นว่า ประเด็นที่โจทก์ฎีกา โจทก์ได้บรรยายข้อเท็จจริงมาในฟ้องโดยชัดแจ้ง และได้อ้างประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 58อันเป็นบทบัญญัติว่าด้วยการบวกโทษที่รอการลงโทษไว้กับโทษในคดีหลังมาในคำขอท้ายฟ้องด้วย จำเลยให้การรับสารภาพในข้อเคยต้องโทษเมื่ออ่านคำให้การของจำเลยแล้วจะเห็นได้ว่า จำเลยให้การรับว่าเคยต้องโทษตามฟ้องจริง ซึ่งหมายความรวมถึงเคยต้องคำพิพากษาให้ลงโทษนั่นเองส่วนข้อความในคำให้การ จำเลยที่มีคำว่า “พ้นโทษ”อยู่ด้วยนั้น เห็นได้ว่าเป็นข้อความที่เกินเลยไปจากความเป็นจริง ฉะนั้น คำให้การของจำเลยจึงฟังได้ว่า จำเลยรับตามข้อความที่โจทก์กล่าวในฟ้อง เมื่อจำเลยให้การรับสารภาพตามฟ้องในข้อนี้โดยมิได้โต้แย้งประการใด จึงถือได้ว่าจำเลยได้รับในข้อเท็จจริงที่โจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยเคยต้องคำพิพากษาให้ลงโทษ แต่ให้รอการลงโทษไว้ และขอให้บวกโทษที่รอการลงโทษไว้กับคดีนี้ด้วย ฎีกาโจทก์ฟังขึ้น

พิพากษาแก้คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ให้บังคับคดีไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น

Share