คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1911/2494

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยตั้งใจไปซื้อเชื่อของเขา แต่เขาไม่ยอมขายเพราะจำเลยซื้อของเชื่อไปราว 160 บาท แล้วยังไม่ใช้จำเลยจึงตรงเข้าหยิบเอาของที่จะซื้อเอาเอง บุตรเจ้าของร้านบอกว่าไม่ยอมขาย จำเลยเงื้อขวดสุราจะตี จนบุตรเจ้าของร้านถอยหนีแล้วจำเลยก็พาของดังกล่าวไป ดังนี้จำเลยย่อมมีผิดฐานชิงทรัพย์

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตาม ก.ม.ลักษณะอาญา ม.๒๙๓,๒๙๘,๒๙๙
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับว่า จำเลยผิดฐานชิงทรัพย์ ตามกฎหมายลักษณะอาญามาตรา ๒๙๘ ประกอบด้วยมาตรา ๒๙๓ (๑) ให้จำคุก ๒ ปี ตามมาตรา ๒๙๙ ฯลฯ
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาปรึกษาสำนวนแล้ว ได้ความว่าจำเลยมาขอซื้อเชื่อถ่านไฟฉาย ๓ ท่อนสุราโรง ๑ ขวด บุตรนายซุ่นหลีไม่ยอมให้เชื่อ เพราะจำเลยซื้อของเชื่อไปราว ๑๖๐ บาท แล้วยังไม่ใช้ จำเลยก็ตรงเข้าหยิบเอาถ่านไฟฉายและสุราโรงไป นายซีไฮ้ บุตรนายซุ่นหลีบอกว่าไม่ยอมขาย จำเลยเงื้อขวดสุราจะตี นายซีไฮ้จึงถอยหนี จำเลยพาของดังกล่าวออกจากร้านไป นายซุ่นหลีออกมาจากหลังร้าน จำเลยกลับพูดว่าจะเตะนายซุ่นหลี พอดีนายวงษ์มาห้ามจำเลยพาจะเตะนายซุ่นหลี พอดีนายวงษ์มาห้ามจำเลยก็พาของดังกล่าวไป ดังนี้เห็นว่าแม้เบื้องต้นจำเลยตั้งใจมาซื้อเชื่อก็ดี เมื่อเจ้าของเขาไม่ยอมขาย จำเลยก็ไม่มีสิทธิจะเอาทรัพย์ของเขาไปฎีกาจำเลยฟังไม่ขึ้น คงพิพากษายืน

Share